PIMOอัพกำลังผลิตรับออเดอร์ สัญญาณงบโดดเด่น-ลุยส่งออก
ทันหุ้น - สู้โควิด – PIMO กางแผนธุรกิจปี 64 เดินหน้าอัพกำลังผลิตมอเตอร์พิเศษ BLDC รองรับออร์เดอร์ เชื่อดันรายได้ปีหน้าโตต่อ 20-25% ใส่เกียร์ลุยส่งออก คาดปีนี้สัดส่วนวิ่งชน 58% จากปีก่อน 32-33% จับตาผลงานโตเด่น ออเดอร์เข้าเดือนละ 7 หมื่นลูก เล็งประกาศงบ Q3/63 ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้
นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO ผู้ประกอบธุรกิจหลัก ได้แก่ ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioning Motor) มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป (Induction Motor) เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำมอเตอร์สำหรับปั๊มบ้าน (Submersible Pump,Pool Spa Pump and Home Pump) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานปี 2564 บริษัทจะเดินหน้าขยายกำลังการผลิต 4 ประเภท คือ 1. เพิ่มกำลังผลิตมอเตอร์ชนิดพิเศษ BLDC เป็น 120-140 ลูกต่อวัน จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 50-70 ลูกต่อวัน เพื่อส่งสินค้าไปจำหน่ายให้กับลูกค้าอเมริกา
อัพกำลังการผลิต
2.บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตมอเตอร์ที่จำหน่ายในประเทศ ซึ่งลูกค้ามีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์)เข้ามาแล้ว 40% 3.บริษัทจะเพิ่มสินค้าที่เกี่ยวกับพัดลม แอร์ จากปัจจุบันมีอยู่ 2 ผลิตภัณฑ์ให้เป็น 5 ผลิตภัณฑ์ และ4.บริษัทจะนำเข้าสินค้าต่างประเทศมาจำหน่ายผ่านช่องทางของบริษัท สำหรับงบลงทุนในการเพิ่มกำลังการผลิต ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำ คาดจะเห็นความชัดเจนในต้นเดือนธันวาคมนี้ หากสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ตามแผน คาดจะผลักดันรายได้ปีหน้าให้เติบโตได้อีกประมาณ 20-25% ต่อจากปีนี้
อีกทั้งบริษัทจะเดินหน้าลดต้นทุนการผลิต โดยการใช้เครื่องจักรออโตเมชั่นมาแทนกำลังคน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้า และผลักดันอัตรากำไรให้เติบโตเพิ่มขึ้น ขณะที่แนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4/2563 บริษัทคาดจะดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3/63 ซึ่งบริษัทจะประกาศผลประกอบการประมาณวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ สำหรับทิศทางผลประกอบการที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับน่าพอใจ
ลุยเครื่องส่งออก
ขณะที่แนวโน้มออเดอร์ในไตรมาส 4/2563 ยังมีทิศทางที่ดี ปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตอยู่ที่ 7 หมื่นลูกต่อเดือน ซึ่งเป็นไปตามออเดอร์จากลูกค้า อีกทั้งบริษัทจะเน้นการส่งออกมากขึ้น เนื่องจากภาวะตลาดในประเทศ ยังถูกกดดันจากสถานการณ์ภายในเป็นหลัก ทั้งนี้บริษัทคาดสัดส่วนรายได้ส่งออกปีนี้จะเพิ่มขึ้นไปที่ 58% จากปีก่อนอยู่ที่ 32-33% ส่วนภาพรวมทั้งปีนี้ บริษัทมั่นใจอัตรากำไรจะเติบโตเพิ่มขึ้นชัดเจนจากการจำหน่ายสินค้าประเภทมอเตอร์ชนิดพิเศษ BLDC และการลดต้นทุนการผลิต
อนึ่ง ผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้รวมอยู่ที่ 347.80ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.15 ล้านบาท หรือ 3.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 334.66 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 30.51ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.26 ล้านบาท หรือ 197.66% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 10.25 ล้านบาท หรือสามารถทำกำไรสุทธิได้มากกว่าทั้งปี 2562 ที่ 28.48 ล้านบาท