MTC ส่องปัจจัยบวกปี 2568-69 FSS เลือกหุ้นเด่น เคาะเป้าใหม่ที่ 60 บ.
#ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส ส่องหุ้น บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC คาดว่าจะมีปัจจัยบวก ประกอบด้วยต้นทุนที่ลดลง คุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นและสินเชื่อที่โตในระดับสูง ดังนั้นจึงคาดว่า MTC จะรายงานกำไรสุทธิปี 2567-69 โต 22.5% CAGR คงคำแนะนำซื้อ และเลือก MTC เป็นหุ้นเด่นที่ราคาเป้าหมายปี 2568 ใหม่ที่ 60 บาท
คงแนวโน้มเชิงบวก คาดกำไรสุทธิช่วงปี 2567-69 โตที่ 22.5% CAGR ฝ่ายวิจัยคาดว่า MTC จะมีปัจจัยบวกประกอบด้วย 1) โอกาสที่ต้นทุนในการกู้ยืมจะลดลงหลัง Fitch Ratings ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ขึ้นจาก BBB+ เป็น A- (ไทย); 2) คุณภาพสินทรัพย์ที่อยู่ในเกณฑ์ดี; 3) การได้รับประโยชน์จากการอัดฉีดสภาพคล่องสู่เศรษฐกิจในระดับจังหวัดที่สูงขึ้นผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่คาดในปี2025 และ 4) สินเชื่อที่คาดว่าจะโตดีถึง 13.2% ต่อปีในปี 2567-26 พร้อมประโยชน์จากขนาดการด าเนินงานที่คาดว่าจะใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้ฝ่ายวิจัยคาดว่า MTC จะรายงานกำไรสุทธิปี 2567-69 โต 22.5% CAGR
ต้นทุนเงินกู้ใหม่ที่ลดลงจากอันดับความน่าเชื่อถือ A- (ไทย) MTC มีหุ้นกู้มูลค่า 31.6พัน ลบ. (25% ของเงินกู้รวม) ที่จะครบกำหนดในปี 2568 ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.2-4.8% ในขณะที่หุ้นกู้ก้อนสุดท้ายของบริษัทฯ ในเดือน ต.ค. 2567 ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือใหม่ที่ A- (ไทย) มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.5-4.0% ด้วยเหตุผลดังกล่าวการออกหุ้นกู้รอบใหม่อาจประหยัดอัตราดอกเบี้ยได้ประมาณ 80-130bp ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่า MTC จะได้รับผลกระทบเชิงบวกเพิ่มขึ้นจากหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือใหม่พร้อมต้นทุน เงินกู้เฉลี่ยที่ลดลงตั้งแต่ไตรมาส Q2/68 เป็นอย่างเร็ว ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าต้นทุนในการกู้ยืมเฉลี่ยได้พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 4.3% ในปี 2567 ก่อนจะลดลงเหลือ 3.8-3.9% ในปี 2568-69
คุณภาพสินทรัพย์น่าจะปรบัตวัดีขึ้นต่อเนื่อง หลังคุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นในปี 2566-67 ตามด้วยนโยบายปล่อยสินเชื่อใหม่ที่รอบคอบมากยิ่งขึ้นโดยมุ่งเน้นไปที่สินเชื่อประเภทมีหลักทรัพย์ค้าประกันมากขึ้น ฝ่ายวิจัยคงมุมมองเชิงบวกของฝ่ายวิจัยต่อแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ของ MTC ในปี 2568-69 นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยยังคาดด้วยว่าบริษัทฯ จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์รายใหญ่จากการอัดฉีดสภาพคล่องสู่เศรษฐกิจระดับจังหวัดให้มากขึ้นผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งคาดว่าจะเกิดในปี 2568 ปัจจุบันฝ่ายวิจัยคาดต้นทุนความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 3.0% ในปี 2567 (ลดลงจาก 3.67% ในปี 2566) และน่าจะค่อย ๆ ลดลงเหลือ 2.8-2.9% ในปี 2568-69 สมมติฐานต้นทุนความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อที่ลดลงสอดคล้องกับสัดส่วนหนี้ด้อยคุณภาพที่คาดว่าจะลดลงเหลือ 2.9% ในปี 2567 (จาก 3.1% ในปี 2023) และ 2.7-2.8% ในปี 2568-69
คงคำแนะนำซื้อ เลือก MTC เป็นหุ้นด่น ที่เป้าหมายปี 68 ใหม่ที่ 60 บาท จาก 62 บาท (GGM) โดยฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการปี 2567-69 ลงประมาณ 5-6% ส่วนมากเพื่อสะท้อนสมมติฐานผลตอบแทนสินเชื่อที่ลดลงและต้นทุนความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อที่สูงขึ้นเล็กน้อย