คลังเดินเกมหนุนรถอีวีเล็งขึ้นภาษีรถใช้น้ำมัน
ความพยายามผลักดันอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่กรมสรรพสามิตมีแผนเดินหน้า ทบทวนปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ จากโครงสร้างปัจจุบันที่จะสิ้นสุดในปีอีก 5 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะรถยนต์ เครื่องยนต์สันดาปภายในต้องขึ้นภาษีมากกว่า รถยนต์ประเภทอื่นเนื่องจากมีการปล่อยมลพิษมาก ดังนั้นมีแนวคิดส่งเสริมให้ผู้ผลิตหันไปผลิตรถยนต์ประเภทที่ปล่อยมลพิษน้อยลง ทั้งไฮบริด ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพราะหากไม่สนับสนุนก็จะไม่มีใครผลิตรถยนต์อีวี
นอกจากนี้ในปัจจุบันแม้ว่ามีมาตรการส่งเสริมลดภาษีให้เหลือ 0% กรณีผลิตในประเทศในปี 63- 65 ก็ยังไม่เกิดหากทำการส่งเสริมอีโคคาร์อยู่ ซึ่งปัจจุบันอีโคคาร์ เฟส 2 ได้ลดภาษีอัตรา 10% ไฮบริด 4% ผู้ผลิตก็ไม่ยอมไปผลิตรถอีวี เพราะยังอยากใช้เทคโนโลยีเดิมอยู่ ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่าในปี 68 ต้องเลิกส่งเสริมอีโคคาร์ พร้อมแยกกอัตราภาษีระหว่างรถยนต์ไฮบริด กับปลั๊ก-อิน ไฮบริด ให้มีความแตกต่างกัน โดยภาษีไฮบริดจะต้องสูงกว่าปลั๊ก-อิน ไฮบริด
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตเปิดให้ผู้ประกอบการผลิตรถยนต์แต่ละรายเข้ามาหารือ ทั้งเทคโนโลยี แผนการผลิตรถยนต์ที่จะมุ่งไปข้างหน้าว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมและแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์จะไปทิศทางไหน หลังจากได้ข้อสรุปก็จะเสนอคลังและครม.พิจารณาอนุมัติให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
สำหรับประเด็นที่ภาคเอกชนเสนอให้ขยายเวลาคิดภาษีรถยนต์อีวีที่ 0% กรณีผลิตในประเทศออกไปอีก 2 ปี จากเดิมจะสิ้นสุดปี 65 ถึงจะขยายเวลาออกไป ก็ไม่ได้ส่งผลให้มีการเร่งผลิตรถยนต์อีวีในประเทศ เพราะจูงใจตั้งแต่ปีนี้ถึงปี 65 ก็ยังไม่มีผู้ผลิตรายใดผลิตขึ้นมาสักรายเดียว เพราะยังไม่มีความพร้อมที่จะผลิตแบตเตอรี่ในประเทศ
ทั้งนี้หากมองอีกมุมหนึ่งจะเห็นว่าปัญหาที่ยังไม่มีผู้ผลิตรถยนต์อีวีในประเทศ เนื่องจากปัจจัยที่จะสนับสนุนให้เกิดการผลิต ไม่ได้เฉพาะภาษีสรรพสามิตเพียง อย่างเดียวแต่ต้องมีมาตรการอื่นที่ไม่ใช่ภาษีด้วย ซึ่งรัฐต้องถกหารือกับเอกกชนให้ชัดเจนก่อนที่จะกดปุ่มไฟเขียวเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE