ทรัมป์ต่อสายมาดูโร สั่งลงจากตำแหน่ง-ออกนอกประเทศทันที หากอยากรักษาตนเอง-ครอบครัว

สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานข่าวเกี่ยวกับ “ข้อความ” ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้บอกกับประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ของพวกเขาเมื่อเดือนที่แล้ว โดยหนึ่งในนั้นคือเรื่องที่ทรัมป์บอกว่า…

“มาดูโรจะสามารถรักษาชีวิตของตนเองและครอบครัวไว้ได้ หากเขายอมสละอำนาจในการปกครองและออกจากเวเนซุเอลาทันที”

หนังสือพิมพ์ The Telegraph รายงานว่าข้อความนี้ถูกส่งไปถึงผู้นำเวเนซุเอลาในช่วงที่ทรัมป์และมาดูโร ได้สนทนาทางโทรศัพท์กันเมื่อเดือนที่แล้ว โดยข้อความจากทรัมป์ยังระบุเพิ่มเติมว่า มาดูโรและครอบครัวจะได้ “รับประกัน” เส้นทางเดินทางออกจากเวเนซุเอลาอย่างปลอดภัย หากเขายอมลงจากตำแหน่ง ซึ่งทรัมป์ได้ออกมายืนยันว่าการพูดคุยทางโทรศัพท์กับมาดูโรเมื่อเดือนที่แล้วเป็นเรื่องจริง แต่ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเขาคงไม่บอกว่าการสนทนานั้นมันเป็นไปด้วยดีหรือแย่ เพราะมันก็แค่การคุยโทรศัพท์ครั้งหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ระหว่างการพูดคุยครั้งนั้นยังมีมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ร่วมอยู่ในวงสนทนาด้วย

การสนทนาดังกล่าวระหว่างสองผู้นำเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำกลุ่ม “Cartel de los Soles” ที่ถูกระบุว่ามีมาดูโรเป็นผู้นำให้เป็นองค์กรก่อการร้าย ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลาที่ตึงเครียด

The Telegraph รายงานด้วยว่าการสนทนาทางโทรศัพท์นี้อาจเป็น “ความพยายามสุดท้าย” ที่จะหลีกเลี่ยงเปิดการปะทะทางทหารโดยตรงระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา ซึ่งในการสนทนายังมี 3 ประเด็นที่ยังคงติดขัด  ประการแรกคือ มาดูโร เรียกร้องประชาคมโลกสำหรับการ “นิรโทษกรรม” สำหรับอาชญากรรมใด ๆ ที่เขาและกลุ่มของเขาได้กระทำ แต่สิ่งนี้ถูกปฏิเสธ ประการที่สอง เวเนซุเอลาเรียกร้องให้ยังคงกองกำลังของตนไว้ เหมือนที่เกิดขึ้นที่นิการากัวแลกกับการที่จะยอมให้มีการเลือกตั้งอย่างเสรี ส่วนประการที่สามคือสหรัฐฯ ยืนกรานว่ามาดูโรจะต้องลงจากตำแหน่งและลาออกทันทีและต้องเปิดทางให้เกิดการฟื้นฟูประชาธิปไตย ซึ่งข้อเรียกร้องต่างๆ นั้น ทรัมป์ได้ปฏิเสธและยื่นเส้นตายให้มาดูโร "หนึ่งสัปดาห์" ซึ่งก็มีการคาดเดากันว่าบทสนทนานี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนผ่านมาถึงเส้นตายเมื่อวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ประกาศปิดน่านฟ้าเวเนซุเอลา

อย่างไรก็ตาม ย้อนไปในเดือนตุลาคม นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า มาดูโรเคยเสนอให้สหรัฐฯ ถือหุ้นในแหล่งน้ำมันของประเทศและเปิดโอกาสทางธุรกิจสำหรับบริษัทสัญชาติอเมริกัน ตราบใดที่เขายังคงอยู่ในอำนาจได้ แต่สหรัฐฯ ได้ยุติการเจรจาเหล่านั้นไป โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะหารือ “ขั้นต่อไป” สำหรับเวเนซุเอลากับทีมงานของเขาโดยมี พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม, แดน เคน ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ และมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ด้วย ทั้งนี้ มีรายงานว่ามาดูโรได้ติดต่อเพื่อขอพูดคุยทางโทรศัพท์กับสหรัฐฯ อีกครั้งแต่ยังไม่มีการตอบรับใด ๆ กลับมาจนถึงขณะนี้