อินเดียเผยฉีดวัคซีนโควิดระลอกแรกราบรื่น ไม่มีใครต้องเข้ารพ.
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 17 มกราคมนี้ว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ระลอกแรกให้กับชาวอินเดียกลุ่มเสี่ยงสูงกว่า 190,000 คนเป็นไปด้วยดี โดยที่ไม่ปรากฏว่าผู้รับวัคซีนรายใด เกิดผลข้างเคียงรุนแรงถึงขนาดต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแต่อย่างใด ตั้งเป้าฉีดให้ได้ 300 ล้านคนภายในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ในขณะที่กระแสต่อต้านวัคซีนผลิตในอินเดียเองเริ่มรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย อนุญาตให้ใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ 2 ตัวในเวลานี้ ประกอบด้วยวัคซีน “โควีชีลด์” ผลิตโดยบริษัทแอสทราเซเนกา จากประเทศอังกฤษ กับ “โคแวกซิน” ซึ่งผลิตโดยผู้ผลิตในอินเดียเอง และยังไม่ได้ผ่านการทดลองในคนระยะที่ 3 แต่อย่างใด
ผู้ที่ได้รับวัคซีนในระลอกแรกนี้ ประกอบด้วย บุคลากรสาธารณสุข, เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล และประชาชนทั่วไปที่อายุเกินกว่า 50 ปี รวมถึงผู้ที่ถูกกำหนดให้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงเพราะมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว
ถ้อยแถลงของกระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ได้รับวัคซีนรายใดเกิดอาการข้างเคียงรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแต่อย่างใด แม้ว่าสื่อท้องถิ่นจะรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยามของ โรงพยาบาลในสังกัด สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งชาติทั่วอินเดีย(เอไอไอเอ็มเอส) มีอาการแพ้เกิดขึ้นทันทีหลังได้รับวัคซีนก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หนักถึงต้องรับการรักษาแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน ตัวแทนของคณะแพทย์ประจำโรงพยาบาล ราม มโนหาร โลเฮีย ในกรุงนิวเดลี ได้จัดทำหนังสือส่งไปยังผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของโรงพยาบาล เรียกร้องให้จัดสรรเฉพาะวัคซีน โควีชีลด์ ให้กับทางโรงพยาบาลเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลังเลหรือต่อต้านการฉีดวัคซีนขึ้น และระบุว่า ชาวบ้านยังคงไม่ไว้วางใจต่อวัคซีนของอินเดียเองที่ยังไม่ผ่านการทดลองในคนในระยะที่ 3 และไม่ขอร่วมในโครงการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก
รายงานข่าวระบุว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นเมื่อเร็วๆ นี้ในกลุ่มตัวอย่าง 18,000 คนในอินเดีย พบว่า ชาวอินเดียสัดส่วนสูงถึง 69 เปอร์เซ็นต์ยืนกรานไม่เร่งรีบที่จะได้รับวัคซีนจากทางการ จนกว่าจะแน่ใจในความปลอดภัย