รีเซต

ย้ำ! ไทยมีระบบติดตามกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนโควิด สธ.ยันไม่จำเป็นต้องตรวจหาภูมิคุ้มกันหลังฉีด

ย้ำ! ไทยมีระบบติดตามกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนโควิด สธ.ยันไม่จำเป็นต้องตรวจหาภูมิคุ้มกันหลังฉีด
มติชน
25 มิถุนายน 2564 ( 11:42 )
77

ข่าววันนี้ (25 มิ.ย.64) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการระดมฉีดวัคซีนป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ทำให้ประชาชนหลายคนมีความสนใจตรวจภูมิคุ้มกันหลังได้รับวัคซีนนั้น กรมวิทยาศาสตร์ฯขอชี้แจงว่า ปัจจุบันการตรวจภูมิคุ้มกันที่มีให้บริการยังไม่สามารถบอกได้ว่า ระดับของภูมิคุ้มกันแบบแอนติบอดี้ที่ตรวจพบสามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้หรือไม่ อีกทั้งประเทศไทยมีระบบการติดตามกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องตรวจหาระดับแอนติบอดี้ หลังได้รับวัคซีน ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก และ องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ เช่นกัน

 

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ในส่วนของการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันหลังได้รับวัคซีนยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย ทั้งการศึกษากลไกของระบบภูมิคุ้มกัน การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันโดยการสร้างแอนติบอดี้ ระดับของแอนติบอดี้ ระยะเวลาในการสร้างแอนติบอดี้ และระยะเวลาการคงอยู่ของแอนติบอดี้ในร่างกาย ทั้งนี้แอนติบอดี้ชนิดที่สามารถป้องกันการติดโรคโควิด-19 นั้น เป็นชนิด neutralizing antibody ซึ่งชุดตรวจแอนติบอดี้ในท้องตลาด ปัจจุบันเป็นชุดตรวจแอนติบอดี้โดยรวม จึงไม่สามารถระบุระดับของ neutralizing antibody โดยเฉพาะได้ ทำให้การตรวจด้วยชุดตรวจที่มีในปัจจุบัน ยังไม่สามารถบอกระดับการป้องกัน การติดเชื้อได้ และการตรวจ neutralizing antibody อย่างจำเพาะนั้น จะต้องทำในห้องปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยระดับสูงเท่านั้น และไม่สามารถตรวจได้ในห้องปฏิบัติการทั่วไป

 

 

“การนำชุดตรวจแอนติบอดี้มาใช้ต้องปฏิบัติตามข้อบ่งชี้ในการใช้งาน และชุดตรวจแอนติบอดี้ จะต้องผ่านการประเมินและรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งชุดตรวจแอนติบอดี้เหล่านี้ กำหนดให้ใช้ได้เฉพาะในสถานพยาบาล โรงพยาบาล คลินิกเวชกรรม คลินิกเฉพาะทางเวชกรรม คลินิกเทคนิคการแพทย์ นอกจากนั้น การตรวจและการแปลผลการตรวจ ต้องทำโดยบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น เพราะจะต้องพิจารณาข้อมูลอาการหรือการตรวจอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย จึงห้ามไม่ให้ประชาชนหาซื้อมาตรวจ ด้วยตัวเอง เพราะอาจตรวจผิดพลาด เกิดความเข้าใจผิดและก่อให้เกิดปัญหาในการควบคุมโรคระบาดได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำ ในการป้องกันโรคต่อไป โดยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และรักษาระยะห่าง แม้จะได้รับวัคซีน จนครบ 2 เข็มแล้วก็ตาม” นพ.ศุภกิจ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง