รีเซต

บล.กสิกรฯมองFedกร้าว แนะกลุ่มแบงก์-ท่องเที่ยว

บล.กสิกรฯมองFedกร้าว แนะกลุ่มแบงก์-ท่องเที่ยว
ทันหุ้น
15 มิถุนายน 2566 ( 11:16 )
52

บล.กสิกรไทยมองว่า Fed คงดอกเบี้ยแค่พักแต่ยังไม่ยอมหยุดขึ้น เหตุเศรษฐกิจสหรัฐฯยังโต เงินเฟ้อยังไม่ต่ำพอ ซึ่งเป็นท่าทีเชิง hawkish มาก อาจฉุดบรรยากาศลงทุนในระยะสั้น และทำให้ตลาดผันผวน แต่ยังมีมุมมองบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังปี และความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจถดถอยลดลงไป แต่การลงทุนอาจปรับเปลี่ยนโดยเพิ่มกลุ่มในประเทศเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มธนาคาร และการท่องเที่ยว

 

บล.กสิกรไทย ระบุว่า Fed คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.00-5.25% ตามที่ตลาดคาด แต่ส่งสัญญาณเชิง hawkish จาก dot plot สะท้อนแค่พักแต่ยังไม่ยอมหยุดขึ้นดอกเบี้ยปีนี้

 

ตัวเลขคาดการณ์จาก Fed dot plot สะท้อนว่า Fed fun rate จะสูงกว่าระดับปัจจุบัน 50bps หรือเพิ่มขึ้นมาอยู่ในกรอบ 5.50-5.75% สิ้นปีนี้

 

Fed เชื่อว่ายังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าเงินเฟ้อจะลดลงกลับมาอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 2% ได้แบบต่อเนื่อง ดังนั้นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อยังมีความเหมาะสม

Fed คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.00-5.25% (ตลาดคาดที่ 5.00-5.25%)Fed คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.00-5.25% ในการประชุม FOMC ในเดือนมิ.ย. หลังปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 10 ครั้งติด ภายในรอบ 15 เดือนที่ผ่านมา ผลการประชุมออกมาถือว่าสอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้ แต่ประเด็นที่เหนือความคาดหมายคือท่าทีเชิง hawkish ของ Fed ที่มากกว่าคาดสะท้อนผ่าน dot plot ซึ่งประเมินอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นเป็น 5.6% ในช่วงสิ้นปี 2566 (คาดการณ์เดิมที่ 5.1%) และ 4.6% ในช่วงสิ้นปี 2567 (คาดการณ์เดิมที่ 4.3%)

 

ปรับเพิ่มประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจนอกจากคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม ในรอบการประชุมนี้ Fed ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ โดยคาด GDP ของสหรัฐฯ จะขยายตัว 1% ในปี 2566 (คาดการณ์เดิมที่ +0.4%) อัตราการว่างงานที่ 4.1% (คาดการณ์เดิมที่ 4.5%) และ core PCE ที่ +3.9% (คาดการณ์เดิมที่ +3.6%)

 

Implications

ปรับจากขึ้นดอกเบี้ยแบบต่อเนื่องเป็นขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ตัวเลขคาดการณ์จาก dot plot ส่งสัญญาณเชิง hawkish ต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของ Fed ในระยะถัดไป โดยบ่งชี้ว่า Fed จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงกว่าระดับปัจจุบัน 50bps ภายในสิ้นปีนี้ กล่าวคือหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 25bps จะต้องมีการปรับเพิ่มขึ้นอีกใน 2 รอบการประชุม ในขณะที่ตลาดคาดว่าจะไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นอีก แถลงการณ์ระบุว่า Fed ยอมรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ถูกปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างมากและต่อเนื่องตั้งแต่ปีแล้ว แต่มองหนทางยังอีกไกลกว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงกลับมาอยู่ในระดับเหมาะสมตามกรอบเป้าหมายที่ 2%

 

การคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในเดือนมิ.ย. เป็นเพียงการให้ Fed ได้ประเมินข้อมูลเพิ่มเติมและผลกระทบจากนโยบายขณะที่ Fed ยังหนักแน่นกับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% และเชื่อว่ายังเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นต่ออีก แต่จะขึ้นแบบค่อยเป็นค่อนไปแทนต่อจากนี้ ดังนั้น เราจึงอาจสรุปได้ว่าวัฏจักรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ยังไม่สิ้นสุดลง แต่การหยุดขึ้นในเดือนมิ.ย. เป็นเปลี่ยนแนวทางจากเดิมที่ขึ้นแบบต่อเนื่องเป็นการขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป

Fed คาดไม่เกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2566 Fed มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวได้แข็งแกร่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุดก็สะท้อนถึงเศรษฐกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง ดังนั้น Fed จึงมีการเพิ่มประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจขึ้นเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มดังกล่าวและจากตัวเลขนั้นเมื่อคำนวนย้อนกลับจะตีความได้ว่า Fed ไม่เชื่อว่าเศษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้

 

อย่างไรก็ดี มองตลาดแรงงานจะยังตึงตัวจากตามการคาดการณ์อัตราว่างงานที่ลดลงเป็น 4.1% จาก 4.5% ในรอบเดือนมี.ค. เนื่องจากอุปสงค์ต่อแรงงานมีมากกว่าอุปทานแรงงานอย่างมาก แต่ Fed เชื่อว่าตลาดแรงงานจะค่อยๆปรับสู่ภาวะที่สมดุลมากขึ้นได้ในระยะถัดไป ในส่วนของแรงกดดันเงินเฟ้อ Fed ปรับเพิ่ม core PCE ขึ้นเป็น + 3.9% จากคาดการณ์เดิมที่ 3.6% บ่งชี้ถึงมุมมองของ Fed ต่อเงินเฟ้อที่มีความหนืด ลดลงได้ช้าและเป็นเหตุผลที่อธิบายว่าทำไมการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อถึงเป็นเรื่องที่ยังเหมาะสม

 

คาดการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งอาจทำให้ตลาดฝันผวน ตลาดส่วนใหญ่คาดว่า Fed จะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุม FOMC เดือนมิ.ย. ขณะที่มีบางส่วนประเมินว่า Fed อาจจะมีท่าทีเชิง hawkish บ้าง แต่ไม่มีใครมองว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกถึง 2 ครั้ง ภายในปีนี้

 

ซึ่งบล.กสิกรไทยมองว่าเป็นท่าทีเชิง hawkish มาก ดังนั้น เรามองว่าประเด็นนี้อาจฉุดบรรยากาศลงทุนในระยะสั้นและทำให้ตลาดผันผวน อย่างไรก็ดี บล.กสิกรไทยยังมีมุมมองบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากมองสภาวะเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังปี และความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจถดถอยลดลงไป แต่การลงทุนอาจปรับเปลี่ยนโดยเพิ่มกลุ่มในประเทศซึ่งมีปัจจัยหนุนเฉพาะเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มธนาคาร และการท่องเที่ยว

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง