สธ.ขอความร่วมมือประชาชนออกจากบ้านให้น้อยที่สุด
วันนี้ (29 ก.ค.64) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 ระบุถึงมาตรการยกระดับมาตรการคบคุมโควิดที่ถูกประกาศใช้อยู่ขณะนี้ ตัวมองว่าภาพรวมคนออกมานอกบ้านมากกว่าเดือนเมษายน ปี 2563 โดยในช่วงนั้นคนจะอยู่บ้านมากสุดประมาณร้อยละ 20 ส่วนตอนนี้อยู่บ้านไม่ถึงร้อยละ 10 อย่างไรก็ตามคงจะต้องรอดูสถานการณ์ และประเมินกันอีกครั้ง
นพ.ธนรักษ์ ยังระบุด้วยว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อขณะนี้หนักที่สุดตั้งแต่มีการแพร่ระบาดมา ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วยังเชื่อว่าถ้าทุกฝ่ายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็สามารถจะคลี่คลายสถานการณ์ได้ แต่ส่วนตัวเข้าใจถึงสภาพปัญหาของภาคเอกชน ในช่วงเมษายนปีที่แล้ว ทางหน่วยงานเอกชน ให้ความร่วมมือในการให้พนักงานทำงานที่บ้านเป็นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับปีนี้ แต่ในปีนี้อาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนให้พนักงานทำงานที่บ้านได้มากเท่าปีที่แล้ว เข้าใจว่าเป็นผลพวงที่กระทบมาตั้งแต่มีการระบาดโควิดทำให้ทุกคนเหนื่อยล้าเต็มที่แล้ว
ตอนนี้สิ่งสำคัญ คือ การให้วัคซีนที่ดี ให้วัคซีนได้เร็ว เชื่อว่าอีกไม่กี่เดือนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดจะค่อยๆ ดีขึ้น จำนวนผู้ป่วยรุนแรงและผู้ติดเชื้อลดลง ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน ออกจากบ้านให้น้อยที่สุด
ขณะเดียวกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า ขณะนี้เชื้อแพร่กระจายเร็ว การติดเชื้อเป็นวงกว้าง การออกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านอาจทำให้เกิดการติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว และนำเชื้อกลับมาติดต่อสู่คนในครอบครัวได้ การควบคุมสถานการณ์การระบาดยังต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากประชาชนในทุกจังหวัด เพื่อลดตัวเลขการติดเชื้อลง โดยขอให้อยู่บ้านมากที่สุด ลดการออกจากบ้าน ลดการเดินทางข้ามจังหวัด เน้นการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น เช่น ไปซื้ออาหาร ไปโรงพยาบาล หรือไปฉีดวัคซีน เป็นต้น โดยขอให้ป้องกันตนเองสูงสุดเสมือนคนรอบข้างเป็นผู้ติดเชื้อ เพื่อป้องกันเชื้อมาสู่ตนเองและไม่ให้เชื้อแพร่สู่ผู้อื่น