รีเซต

เงินบาทกับราคาทองคำในประเทศ วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

เงินบาทกับราคาทองคำในประเทศ วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง
TNN ช่อง16
5 กรกฎาคม 2564 ( 11:34 )
84

GOLD BULLISH

  • การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ
  • ความต้องการทองคำจากจีนในปีนี้คาดเพิ่มขึ้น


GOLD BEARISH

  • ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน
  • ทิศทางเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 
  • การกระจายวัคซีนโควิด-19


เงินบาทอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 13 เดือน 

สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองแท่งในประเทศขึ้นอยู่กับราคาทอง Spot ในตลาดโลกและทิศทางเงินบาท ซึ่งในเดือนมิ.ย.ราคาทอง Spot ในตลาดโลกลดลงถึง 7% และเป็นเดือนที่ราคาทอง Spot มีการปรับลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 ทำให้เป็นปัจจัยให้ราคาทองแท่งในประเทศลดลง ในขณะที่ทิศทางเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วกลับมีผลทางบวกต่อราคาทองแท่งในประเทศ ปัจจัยที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 13 เดือนจนทะลุ 32 บาท/ดอลลาร์ มีหลายปัจจัยเข้ามาพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็นเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วหลังการประชุมเฟดในช่วงกลางเดือนมิ.ย.ที่เฟดได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ 1 ปี ทำให้ตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.เงินบาทกลับทิศทางอ่อนค่าลง สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับที่สูงขึ้นจนนำมาสู่การออกมาตรการคุมเข้มมากขึ้นของรัฐบาล เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. รวมทั้งเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยในเดือนมิ.ย.มากขึ้นด้วย


เงินบาทแนวโน้มอ่อนค่าลง 

เงินบาทกับราคาทองคำในประเทศ

ทิศทางเงินบาทมีผลต่อราคาทองในประเทศพอสมควรทีเดียว การอ่อนค่าของเงินบาททุก 10 ส.ต.มีผลทางบวกต่อราคาทองแท่งในประเทศ 80 บาท ในทางตรงกันข้ามถ้ามีการแข็งค่าขึ้นของเงินบาททุก 10 ส.ต. จะส่งผลลบต่อราคาทองในประเทศ 80 บาท ดังนั้นเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.รวมแล้วถึง 1 บาท เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีผลทางบวกต่อราคาทองในประเทศราว 800 บาท ดังนั้นบางท่านที่ซื้อทองคำไว้ก่อนหน้านี้ในช่วง 1-2 เดือน แต่ยังไม่ได้ขายในช่วงที่ราคาทอง Spot ปรับขึ้นไปถึง 1,900 ดอลลาร์ ยังได้ผลพวงจากเงินบาทที่อ่อนค่าลงช่วยพยุงราคาทองแท่งในประเทศ ซึ่งประเมินว่าแนวโน้มเงินบาทในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยเศรษฐกิจไทยในปีนี้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศที่คาดจะขยายตัวในอัตราที่ต่ำ เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ที่เฟดคาดจะขยายตัวถึง 7%

ราคาทองแท่งในประเทศ 

สัปดาห์นี้แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,750-1,800 ดอลลาร์ ประเด็นหลักที่คาดจะกระทบต่อราคาทองคำคือการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 15-16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่เฟดได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ 1 ปี สำหรับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นั้นประธานเฟดแถลงว่ากรรมการเฟดได้เริ่มหารือที่จะปรับลดวงเงินมาตรการ QE การเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ทำให้ทราบมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดในรายละเอียดมากขึ้น สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอื่นๆ ที่จะประกาศสัปดาห์นี้มีไม่กี่ตัว ได้แก่  ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ จำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือนพ.ค. โดยทองคำมีแนวรับที่ 1,760 ดอลลาร์ และมีแนวรับสำคัญที่ 1,750 ดอลลาร์ ซึ่งถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวคาดจะมีแรงเทขายอย่างหนักและทำให้ราคาทองคำปรับลงแรง โดยจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,730 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ และ 1,830 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 26,850  บาท และ  26,700 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 27,400 บาท และ 27,750 บาท 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง