สหรัฐฯ "ชัตดาวน์" ครั้งแรกรอบ 7 ปี ป่วนเศรษฐกิจ

ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า "government shutdown" เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2025 ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายของสหรัฐฯ จากปัญหาเรื่องการอนุมัติงบประมาณ เนื่องจากสภาคองเกรส จะจัดสรรงบประมาณให้กับรัฐบาลกลาง (Federal government) ในทุกปีงบประมาณ ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 ตุลาคม แต่ถ้าหากสภาฯ ไม่สามารถผ่านร่างงบประจำปีได้ หรือข้อตกลงชั่วคราว ที่เรียกว่า CR (continuing resolution) ได้ทันก่อนกำหนด 1 ตุลาคม รัฐบาลกลางก็จะถูกชัตดาวน์ ทำให้หน่วยงานรัฐบาลจำนวนมากต้องหยุดทำงานโดยเฉพาะหน่วยที่ไม่จำเป็น ขณะที่งานบริการสำคัญอย่างความมั่นคงและสาธารณสุขยังเดินหน้าต่อแต่เจ้าหน้าที่อาจต้องทำงานโดยไม่มีเงินเดือน
การชัตดาวน์ที่เกิดในรอบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เกิดขึ้นมาแล้วกว่า 10 ครั้งในประวัติศาสตร์การเมือง แต่ในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี จากครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงปี 2018–2019 และที่น่าตกใจ คือ ครั้งล่าสุด ก็เกิดขึ้นในยุคของผู้นำที่ชื่อทรัมป์คนนี้เช่นกัน กับการบริหารประเทศสมัยแรกทรัมป์ 1.0 ในช่วงเดือนธันวาคมปี 2018 โดยตอนนั้นทรัมป์ต้องการบีบให้สภาอนุมัติงบประมาณ 11 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างกำแพงระหว่างประเทศสหรัฐฯ และเม็กซิโก ซึ่งสุดท้ายทรัมป์ก็ต้องยอมแพ้แก่เดโมแครต และต้องหันไปใช้คำสั่งประธานาธิบดีประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่ออนุมัติงบพิเศษเพื่อสร้างกำแพงแทน
การถูกปิดเครื่องของรัฐบาลกลางทำให้พนักงานรัฐมากกว่า 750,000 คน ถูกพักงาน ซึ่งทั้งหมดนี้มีรายได้ต่อวันรวมกันที่ 400 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท) และยังพนักงานอีกหลายแสนคนต้องทำงานโดยไม่มีค่าจ้าง หน่วยงานสาธารณสุขและวิจัยถูกพักงานกว่า 40–70% ส่งผลให้บริการสาธารณะลดประสิทธิภาพ ผู้รับเหมารายย่อยก็จะไม่ได้รับเงินระหว่างนี้ ส่วนสมาชิกรัฐสภายังได้รับเงินเดือนตามปกติ ส่วนข้อมูลสำคัญๆ จากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงตัวเลขด้านเศรษฐกิจ เช่น แรงงาน และเงินเฟ้อ ก็ต้องหยุดเผยแพร่ไปด้วย ทำให้ตลาดการเงินและนโยบายของธนาคารสหรัฐ หรือ Fed ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
