สแกน 7 หุ้นรพ. โบรกคาด Q3/63 ฟื้นตัว QoQ...ลุ้นปีหน้า COVID-19 หายกำไรดี
ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) สแกน "กลุ่มโรงพยาบาล" คาดผลประกอบการกลุ่มโรงพยาบาลภายใต้ coverage มีกำไรปกติที่ 1,966 ล้านบาท (+155%QoQ ,-46%YoY) ผลประกอบการฟื้นตัว QoQ หลังรัฐบาลมีการผ่อนปรนมาตรการ lockdown กอปรกับเข้าช่วงฤดูฝนซึ่งเป็น High season ของอุตสาหกรรมโรงพยาบาลส่งผลให้คนไข้ไทยจะกลับมาใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยในประเทศ ซึ่งในเดือน ส.ค - ก.ย อัตราการใช้บริการ ของผู้ป่วยในประเทศกลับสู่ระดับ 70-80% รวมถึงการที่รัฐเริ่มผ่อนคลายให้ต่างชาติ สามารถเดินทางเข้าไทยได้ทำให้ รพ.มีรายได้เสริมจากการเข้าร่วมโครงการภาครัฐใช้
สถานที่โรงพยาบาล หรือร่วมกับพันธมิตรโรงแรม ในการใช้สถานที่เป็นที่กักตัวทั้งแบบ สถานที่กักตัวทางเลือก (Alternative State Quarantine :ASQ) และ สถานที่กักตัวควบคู่ไปกับการรักษาพยาบาล (Alternative Hospital Quarantine :AHQ เทียบ YoY กลุ่มโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนต่างชาติสูง อย่าง BH BDMS หรือ EKH ยังมีผลประกอบการลดลงแรงเนื่องจากลูกค้าต่างประเทศยังไม่สามารถบินกลับมารักษา ขณะที่ รพ.ที่มีรายได้จากประกันสังคม และเน้นผู้ป่วยในประเทศ อย่าง BCH และ VIBHA คาดว่าผลประกอบการจะ outperform กลุ่ม
โดยคาดว่า BCH มีกำไรทรงตัวในระดับสูงใกล้เคียงปีก่อน เนื่องจากได้ประโยชน์จาก การให้บริการตรวจเชื้อ COVID-19 มาชดเชยกับรายได้จากกลุ่มลูกค้าปกติที่หายไป ส่วน VIBHA คาดกำไรปกติ (เทียบปีก่อนไม่รวมรายการพิเศษกำไรจากการขายหลักทรัพย์เผื่อขาย) กลับมาเติบโต 3%YoY เนื่องจากสัดส่วนลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าไทย ซึ่งเริ่มกลับมาใช้บริการเป็นปกติ
ผ่านจุดที่แย่สุดไปแล้ว รอ COVID-19 คลี่คลายปีหน้า ภาพรวมปี 2563 คาดกำไรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล ภายใต้ Coverage ของเรา 7 บริษัท ที่ 8,624 ล้านบาท (-32%YoY) อย่างไรก็ตามคาดกลุ่มโรงพยาบาลที่รับลูกค้าประกันสังคมเป็นหลัก ผลประกอบการจะ Outperformกลุ่ม เนื่องจากได้รับผลบวกจากการที่ประกันสังคมปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัว ราว 5.6% ในช่วงต้นปี เป็น 3,959 บาทต่อหัว ชดเชยรายได้จากผู้ป่วยเงินสดที่ลดลง
สำหรับหุ้นที่ฝ่ายวิจัย cover คาดว่า BCH เป็นบริษัทเดียวที่มีกำไรเติบโต YoY เนื่องจาก 1) ได้รับผลบวกจากการที่ประกันสังคมปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัว ราว 5.6% ในช่วงต้นปี เป็น 3,959 บาทต่อหัว 2) มีรายได้จากการให้บริการตรวจ COVID-19 ซึ่งเคสสูงสุดในกลุ่ม รพ.เอกชน ช่วยชดเชยชดเชยรายได้จากผู้ป่วยเงินสดที่ลดลง ปี 2564 เบื้องต้นเราคาดผลประกอบการฟื้นตัว 43%YoY เป็น 12,345 ล้านบาท อิงสมมติฐาน สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกเริ่มคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น และสามารถคิดค้นวัคซีนรักษาได้
คงน้ำหนักการลงทุน “เท่าตลาด” มองว่าผลประกอบการที่แย่ในครึ่งปีแรกตลาดรับรู้ไปแล้ว และคาดหวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะบรรเทาลงในครึ่งปีหลัง แนะนำลงทุนในเชิง selective เลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตดีกว่ากลุ่มฯ
โดยแนะนำ “ซื้อ” BCH (TP THB19.30) ซึ่งเลือกเป็น Top pick ของกลุ่ม ซึ่งมีผลประกอบการ ที่เติบโตดีกว่ากลุ่ม เนื่องจากมีผลบวกจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม รายได้หนุนการให้บริการตรวจ COVID-19 และแนะนำ “ซื้อ” BDMS (TP THB24.30) คาดผลประกอบการเริ่มฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง และจะกลับมาเติบโตในปี 2564 หลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายในทางที่ดีขึ้น ราคาปรับลดลงสะท้อนปัจจัยลบมากไป
*ปัจจัยเสี่ยง - หากการระบาด COVID-19 ระลอก2 รุนแรงและการคิดค้นวัคซีนรักษาล่าช้ากว่าที่คาดไว้ อาจมีผลต่อประมาณการของเรา โดยเฉพาะ รพ.ที่มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติสูง