ByteDance เซ็นร่วมทุนเพื่อขายกิจการในสหรัฐฯ ให้ติ๊กต็อกเดินหน้าต่อ

บริษัท “ไบต์แดนซ์” ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยมอย่างติ๊กต็อก ได้ลงนามในข้อตกลงที่มีผลผูกพัน เพื่อโอนขายทรัพย์สินส่วนใหญ่ของติ๊กต็อกในสหรัฐฯ และจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มนักลงทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน นับเป็นก้าวสำคัญในการหลีกเลี่ยงการถูกสั่งแบนจากรัฐบาลสหรัฐฯ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของติ๊กต็อกเปิดเผยในบันทึกถึงพนักงานเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมว่า ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ไบต์แดนซ์จะถือหุ้นในกิจการใหม่ 19.9% ขณะที่ออราเคิล บริษัทคลาวด์คอมพิวติ้งรายใหญ่ของสหรัฐฯ กลุ่มไพรเวทอิควิตีซิลเวอร์เลก และบริษัทการลงทุน MGX ซึ่งมีฐานอยู่ในกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะถือหุ้นฝ่ายละ 15% ส่วนอีก 30.1% จะอยู่ในมือของบริษัทในเครือของนักลงทุนเดิมของไบต์แดนซ์

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ มีคำสั่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ให้ชะลอการบังคับใช้กฎหมายที่กำหนดให้แบนติ๊กต็อก หากไม่มีการขายกิจการ

แม้ว่าธุรกรรมดังกล่าวจะยังไม่แล้วเสร็จจนกว่าจะถึงวันที่ 22 มกราคม 2026 แต่ข้อตกลงนี้เปิดทางให้ติ๊กต็อก ซึ่งมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ มากกว่า 170 ล้านคน สามารถดำเนินการต่อไปได้ในประเทศ

ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน 2024 ระหว่างการบริหารงานของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านกฎหมายห้ามใช้ติ๊กต็อก โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ เว้นแต่จะมีการขายกิจการออกไป

กฎหมายดังกล่าวเดิมมีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 20 มกราคมของปีนี้ แต่ถูกประธานาธิบดีทรัมป์เลื่อนออกไปหลายครั้ง ระหว่างที่รัฐบาลของเขาดำเนินการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงในการถ่ายโอนความเป็นเจ้าของกิจการ