Pápateszér หมู่บ้านเล็กแต่ยั่งยืน ตัวอย่างหมู่บ้านสีเขียวที่ประสบความสำเร็จในฮังการี
พาพาเทสเซอร์ (Pápateszér) หมู่บ้านที่เงียบสงบในเทศมนตรีแว็สเปรม (Veszprém County) ทางตะวันตกของประเทศฮังการีกำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากหน่วยงานเทศบาลและผู้อยู่อาศัยกำลังปรับปรุงหมู่บ้านให้มีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนโดยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงเรียนอนุบาลและอาคารอื่น ๆ และริเริ่มพัฒนาอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อดึงดูดผู้อยู่อาศัยใหม่ นักท่องเที่ยว และนักลงทุน
การพัฒนานี้ริเริ่มโดยนายกเทศมนตรี เบลา โวลฟิงเกอร์ (Bela Volfinger) ซึ่งต้องการประหยัดค่าพลังงานที่ใช้ในหน่วยงานเทศบาล ดังนั้นจึงเริ่มโครงการปรับปรุงระบบฉนวนและระบบความร้อน รวมไปถึงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ด้วย
ตัวอย่างจากหน่วยงานเทศบาล ประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อยู่อาศัยในเมืองได้ริเริ่มติดตั้งระบบของตัวเองด้วยเช่นกัน ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ของหมู่บ้าน กลายเป็นโครงสร้างที่มีความยั่งยืนแล้ว เช่น ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ตามอาคารบ้านเรือน หรือการติดตั้งโรงสีกำลังน้ำ (โครงสร้างที่ใช้กังหันน้ำเพื่อขับเคลื่อนกระบวนการทางกล) และได้กลายเป็นเสน่ห์ของหมู่บ้าน จนมีผู้คนย้ายเข้ามาอยู่อาศัยใหม่ 50 คนในช่วงไม่กี่ปี ทำให้ปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยทั้งหมดประมาณ 1,200 คน
ทั้งนี้ ซานดอร์ อิลโก (Sandor Ilko) ผู้ประกอบการในพื้นที่ แสดงความคิดเห็นว่า “ตอนที่เทศบาลเริ่มเปลี่ยนมาใช้แผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้า ผมได้พูดคุยกับนายกเทศมนตรีเบลาบ่อยครั้ง และบอกเขาว่าหากวิธีนี้สามารถลดค่าใช้จ่ายของเทศบาลได้ ผมก็จะทำตามเหมือนกัน” โดยปัจจุบัน อิลโก ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 10 กิโลวัตต์ และเขากล่าวว่ามันสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อจ่ายให้กับเครื่องจักรและการใช้งานในครัวเรือนทั้งหมดของเขาได้
ปัจจุบันโวลฟิงเกอร์กำลังวางแผนที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวของหมู่บ้านเพิ่มเติม โดยการพัฒนาโรงสีกำลังน้ำที่ไม่ได้ใช้งานแล้วกว่า 25 แห่งในหมู่บ้านให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและที่พัก
ในปี 2023 หมู่บ้านพาพาเทสเซอร์ได้รับรางวัล ยูโรเปียน ไคลเมต สตาร์ (European Climate Star) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้หน่วยงานท้องถิ่นที่มุ่งมั่นในการปกป้องสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาที่ยั่งยืน จากการริเริ่มผสมผสานระหว่างประเพณีวัฒนธรรมเข้ากับความยั่งยืน และหมู่บ้านได้รับเงินสนับสนุนประมาณ 1,500 ล้านโฟรินต์ฮังการี หรือประมาณ 144 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกองทุนสหภาพยุโรปเพื่อสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์นี้
ที่มาข้อมูล Reuters
ที่มารูปภาพ Reuters