ศึกผ้าเหลือง! พระหนุ่มฉุนหลวงพี่ คุยกิจนิมนต์ไม่ลงตัว คว้ามีดพร้าฟันหน้า

พระรุ่นน้อง ฉุนพระรุ่นใหญ่ โทรขอออกกิจนิมนต์แทน แต่กลับถูกด่า โมโหเลือดขึ้นหน้า คว้ามีดพร้าฟันหน้าเจ็บสาหัส พบประวัติป่วยจิตเวช เคยถูกจับคดียาเสพติด

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2564 ร.ต.อ.เวชยันต์ หิรัญญสุวรรณ รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุพระทะเลาะวิวาทกันด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บ ภายในสำนักสงฆ์เขาหลักจันทร์ ม.12 บ้านเขาโหรง ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน สายตรวจ สภ.เมืองตรัง และฝ่ายปกครอง

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้ากุฏิ พบหยดเลือดและกองเลือดบนพื้นจำนวนมาก ส่วนคนเจ็บคือพระสุเทพ ธนจาโร หรือหลวงพี่แจ๊ส อายุ 63 ปี พระลูกวัด ถูกพลเมืองดีนำส่งรพ.ศูนย์ตรัง โดยได้รับบาดเจ็บถูกฟันด้วยมีดพร้าเข้าที่ใบหน้า ปากและจมูกเป็นแผลฉกรรจ์

ส่วนผู้ก่อเหตุคือพระลูกวัดอายุ 30 ปี นั่งรอมอบตัวอยู่ในศาลาการเปรียญ ในสภาพตัวสั่นเครือ เนื้อตัวและจีวรเปื้อนเลือด พร้อมด้วยของกลางเป็นมีดพร้า 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนั้นพระเคารพ ยติโก หัวหน้าสำนักสงฆ์ฯ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ทำการลาสิขา หรือสึกโดยทันที

ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนกับหลวงพี่แจ๊สไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่ก่อนเกิดเหตุตนโทรหาหลวงพี่แจ๊ส ที่เพิ่งกลับจากกิจนิมนต์ ว่างานในคืนที่จะถึงตนขอไปออกกิจนิมนต์ที่วัดขุนสิทธิ์ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง แทนเพราะตนไม่ค่อยได้ออกไปกิจนิมนต์ และอีกอย่างหลวงพี่แจ๊สป่วยมีโรคประจำตัว

ทางหลวงพี่แจ๊สก็ตอบกลับมาว่า "ไม่ได้กูจะไปเอง" ตนจึงพูดไปอีกว่า ขอให้พักผ่อนดีกว่าให้ตนได้ไปบ้าง เพราะ 4-5 งานมาแล้วตนไม่ได้ไปเลย ทำให้หลวงแจ๊สพูดมาว่า "มึงทำหรอยนะ มาสั่งให้กูพัก ขนาดอาจารย์ยังไม่เคยสั่งกูเลย" ทำให้ตนโมโหมากจึงเดินไปที่กุฏิหลวงพี่แจ๊ส

ระหว่างทางเห็นมีดพร้าวางอยู่จึงได้หยิบและเดินเข้าไปฟันเข้าใบหน้า 1 ครั้ง ก่อนจะมีการยื้อแย่งมีดกันและมีพระอีกรูปเข้ามาห้าม ตนจึงเดินไปหาหัวหน้าสำนักสงฆ์พร้อมบอกว่าตนพลาดไปแล้ว ขอให้ช่วยแจ้งตำรวจ ตนรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านนายเจียร ยิ่งยวด อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า คนก่อเหตุและพระที่บาดเจ็บนิสัยและการพูดจาดีทั้งสอง ส่วนสาเหตุที่เกิดเรื่องเพราะพระที่อาวุโสถูกพระรุ่นน้องที่เพิ่งจะบวชมาสั่ง คล้ายกับไม่เคารพ ก็เลยอาจจะทำให้พูดไปแบบนั้น

ด้านพระพิพัฒน์ กิตตวัตรโก พระลูกวัดที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนนั่งคุยอยู่กับหลวงตา และผู้ก่อเหตุได้ถือมีดพร้าที่วางอยู่หน้ากุฏิ ก่อนจะฟันเข้าไปที่ใบหน้าหลวงพี่แจ๊ส 1 ครั้ง โดยที่ไม่พูดไม่จา ทำให้บาดเจ็บจมูกเกือบขาด ตนจึงเข้าไปห้ามก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะวิ่งหนีไป ส่วนปัญหาก็มาจากเรื่องกิจนิมนต์เพียงอย่างเดียว

สำหรับนิสัยผู้ก่อเหตุเป็นคนเงียบ ๆ แต่จะมีอาการจิตตกอยู่บ่อยครั้ง หากไม่ได้อะไรตามใจหวัง จะโมโหและชอบลงไม้ลงมือ ตนก็ได้ห้ามไว้หลายครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน เคยต่อยกับพระในวัดเดียวกันมาแล้วเนื่องจากโดนดุด่า ตนก็เข้าไปห้ามพร้อมสั่งสอนแต่ก็ไม่เชื่อฟัง

เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวชของรพ.ศูนย์ตรัง มีประวัติทำการรักษาและรับประทานยาอยู่อย่างต่อเนื่อง และเคยมีประวัติถูกจับกุมในคดียาเสพติด และเคยถูกนำตัวไปบำบัด ก่อนที่จะมาบรรพชาบวชเป็นพระได้ 1 พรรษา