รีเซต

เลขาสมช. ยัน พร้อมผ่อนปรนเพิ่ม หากผลเฟสแรกดี ขู่ ถ้าสุราเป็นเหตุให้ติดเชื้อเพิ่ม ห้ามขายทันที

เลขาสมช. ยัน พร้อมผ่อนปรนเพิ่ม หากผลเฟสแรกดี ขู่ ถ้าสุราเป็นเหตุให้ติดเชื้อเพิ่ม ห้ามขายทันที
มติชน
2 พฤษภาคม 2563 ( 14:47 )
104
1
เลขาสมช. ยัน พร้อมผ่อนปรนเพิ่ม หากผลเฟสแรกดี ขู่ ถ้าสุราเป็นเหตุให้ติดเชื้อเพิ่ม ห้ามขายทันที

เลขาสมช. ยัน พร้อมผ่อนปรนเพิ่ม หากผลเฟสแรกดี ขู่ ถ้าสุราเป็นเหตุให้ติดเชื้อเพิ่ม ห้ามขายทันที

 

เลขาสมช. ยัน พร้อมผ่อนปรนเพิ่ม หากผลเฟสแรกดี คนให้ความร่วมมือ ขู่ หากสุราเป็นเหตุให้ติดเชื้อเพิ่ม ห้ามขายทันที แนะ 3 พ.ค.นี้กินที่บ้าน วางกฏร้านตัดผม ซอยได้แต่ห้ามย้อม หนุนออกกำลังกายป้องโรค ถ้าจะรำไกเก็ก ต้องโซเซียลดิสแทนด์

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 2 พฤษภาคม พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลางศบค. แถลผลการดำเนินการว่า ได้ประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยให้มีถึงผลถึงสิ้นเดือนเมษายน และได้ต่ออายุพ.ร.ก.เพิ่มอีก 1 เดือนจนถึงปลายเดือนพฤษภาคมเพื่อให้ควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่มาตรการที่เคร่งครัดในเดือนเมษายน ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการดำเนินชีวิต รวมทั้งเรื่องเศรษฐกิจจึงกำหนดมาตรการผ่อนปรนมากขึ้น ซึ่งที่มาของมาตรการผ่อนปรนช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ต้องมีการประเมินเป็นระยะๆ ว่าสามารถผ่อนปรนได้มากน้อยอย่างไร

“สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กบความร่วมมือของประชาชนทุกคน ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินการปลดล็อกหรือผ่อนปรนมาตรการต่างๆเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมเป็นต้นไป อย่างน้อย 14 วัน ที่จะมีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆที่ออกไปแล้ว ยังคงรักษามาตรกฐานด้านความปลอดภัยสาธารณสุขเป็นหลัก แต่ก็พยายามผ่อนปรนการดำรงชีวิตให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น และคำนึงถึงด้านเศรษฐกิจประกอบด้วย ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับที่ได้ประกาศไปแล้ว เช่น การดำรงชีวิตผ่อนปรนให้เปิดร้านค้า ร้านอาหาร ในโรงแรม สนามบิน โรงพยาบบาล หาบเร่แผงลอย แต่ต้องมีมาตรกกำกับ อย่างน้อยที่สุดต้องรักษาระยะห่าง ทำความสะอาดพื้นผิว มีการวัดอุณหภูมิ และจัดให้มีเจลล้างมือ อย่างไรก็ตาม มาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้นก็สามารถออกได้ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่ากทม. เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้า เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน”พล.อ.สมศักดิ์

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า แม้จะอนุญาตให้เปิดร้านเสริมสวย แต่อนุญาตเฉพาะการตัดสระ ซอย แต่ยังไม่อนุญาตให้เสริมสวยอื่นๆ เหตุผล เพราะไม่ต้องการให้ใช้เวลานาน เพราะมีโอกาสรับเชื้อมากขึ้น ซึ่งทั้งผู้รับ และให้บริการ ต้องมีมาตรการเข้มงวด ส่วนการออกกำลังกายกลางแจ้ง เราทราบดีช่วงที่มีโรคระบาดร่างกายมนุษย์ยังมีโรคภัยอื่นๆ สิ่งจำเป็นคือการรักษาสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรง ซึ่งเกิดจากการออกกำลังกาย ดังนั้น สวนสาธารณจะเปิดให้เดิน วิ่ง ปั่นจักรยานได้ เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนรำไทเก๊กก็ทำได้ แต่อาจต้องรักษาระยะห่าง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคนที่มีหน้าที่ดูแลสวนสาธารณะจะกำหนดมาตรการเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ภายใต้มาตรการผ่อนคลาย แต่มาตรการบังคับปกติ คือ การห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 22.00 – 04.00 น. ยังคงใช้บังคับอยู่ การจำกัดการเคลื่อนย้ายผู้คนข้ามจังหวัดยังบังคับอยู่ และมาตรการพื้นฐานการรักษาระยะห่าง การวัดอุณภูมิ การจำกัดผู้เข่าร่วมกิจกรรมก็ยังจำกัดต่อไป ในระยะต่อไปหากประเมินแล้วดีขึ้น สถานการณ์ผู้ป่วย ผู้ฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวน้อยลง ก็จะพิจารณาเปิดการผ่อนปรนระยะต่อไปจนครบ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานมาตรการทางสาธารณสุขเป็นหลัก ส่วนด้านเศรษฐกิจ ความสะดวกสบายเราก็ต้องพิจารณาด้วยแต่เป็นเรื่องประกอบ

เมื่อถามว่า คลินิคเสริมความงามที่จัดตั้งอย่างถูกต้องสามารถเปิดได้ด้วยหรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตโดยปกติสุขไม่น่าจะอนุญาต วิธีคิดง่ายๆ คือ กิจกรรมใดใช้เวลานานจะมีความเสี่ยง ดังนั้น กรณีนี้จะประเมินอีกทีว่าสมควรอยู่ในระยะ 2 – 3 หรือไม่ แต่ในขั้นต้นตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมเป็นต้นไป สถาบันเสริมความงามต่างๆยังคงห้ามต่อไป ทั้งนี้ ตอนที่เรากำหนดมาตรการผ่อนปรน หรือกำกับกิจการ กิจกรรมต่างๆ มีการหารือทั้งฝ่ายความมั่นคง สภาพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ โดยตัวแทนผู้ประกอบการ และฝ่ายสาธารณสุข ถือเป็นความเห็นชอบพร้อมกันทั้ง 3 ฝ่าย ซึ่งจะมีการหารือเป็นระยะๆต่อไป

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมสามารถขายได้ สถานที่หรือห้างร้านที่ได้รับใบอนุญาตแต่แรกให้จำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็สามารถเปิดขายได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมเป็นต้นไป แต่อย่างไรก็ตาม ยังเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่ากทมฯ หากเห็นว่าในพื้นที่มีของตนมีการละเมิด มีการแพร่เชื้อจากการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็สั่งปิดภายหลังได้ ทั้งนี้ วัตถุประสงค์คือให้ซื้อกล้บบ้านได้ บริโภคภายในบ้านกับสมาชิกในครอบครัว แต่อย่าให้ถึงลักษณะมั่วสุม เพราะจะผิดข้อบังคับลักษณะอื่นอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่มีสิทธิตักเตือนหรือดำเนินคดีได้ แต่หากการมั่วสุมเกิดขึ้นหลายพื้นที่จะกลายเป็นว่าการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุ ก็อาจนำไปสู่การจำกัดหรืองดขาย ก็ต้องขอความร่วมมือทุกท่านถ้าไม่อยากถูกห้ามปรามเพิ่มเติม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง