รีเซต

มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เริ่มใช้แล้ว 10 เม.ย.

มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ  เริ่มใช้แล้ว 10 เม.ย.
ทันหุ้น
11 เมษายน 2567 ( 12:12 )
17
มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ  เริ่มใช้แล้ว 10 เม.ย.

#AP #ทันหุ้น - มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision)

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/26222.pdf

 

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด กรณีห้องชุด ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/26223.pdf

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์สระบุว่า รัฐออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์รอบใหม่

ลดหย่อนค่าธรรมเนียมทั้งการโอนกรรมสิทธิ์ (เดิม 2%) และค่าธรรมเนียมการจำนอง (เดิม 1%) เหลือเพียง 0.01% สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อยูนิต

ผู้ปลูกสร้างบ้านสามารถหักภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านพิเศษ วงเงิน 30,000 ล้านบาท ผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรได้รับยกเว้นภาษี 3 ปี

คาดว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้น GDP ไทย 1.7%-1.8% ในปี 2567

ส่งผลดีต่อหุ้นอสังหาริมทรัพย์ หุ้นที่เราแนะนำคือ AP และ LH

 

ผลกระทบสำคัญมาจากการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจำนอง

ปรับเพิ่มเกณฑ์ราคาทรัพย์สินจากเดิม 3 ล้านบาทต่อยู่นิต เป็น 7 ล้านบาทต่อยูนิต นับเป็นผลบวกที่สำคัญ ทำให้ผู้ซื้อจำนวนมากสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์นี้ได้

บล.ดีบีเอสฯ ประเมินว่าอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 85% ของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ

ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินค้าคงเหลือ (ทั้งที่ดินจัดสรรและคอนโดมิเนียม) ที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยมาตรการนี้จะใช้กับการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดำเนินการตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา( 10 เมษายน 2567) จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

 

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

กระทรวงการคลังประเมินว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 800,000 ล้านบาท กระตุ้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 400,000 ล้านบาท และกระตุ้นการใช้จ่าย 120,000 ล้านบาท จากการหักภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท สำหรับผู้สร้างบ้านอยู่อาศัยเอง ทั้งหมดนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้น GDP ไทย 1.7-1.8% ในปี 2567

 

เป็นข่าวดีสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ฯ

บล.ดีบีเอสฯ มองว่ามาตรการนี้เป็นข่าวดีสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากที่ผ่านมา

ภาคนี้ประสบปัญหากำลังซื้ออ่อนแอตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวสำหรับผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท การประหยัดภาษีและดอกเบี้ยเงินกู้ถือว่าคุ้มค่า จากเดิม 3% (ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 140,000 บาท และค่าธรรมเนียมการจำนอง 70,000 บาท) เหลือ 0.02% (ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 700 บาท และค่าธรรมเนียมการจำนอง 700บาท) ซึ่งน่าจะช่วยเร่งการตัดสินใจซื้อบ้านภายในปีนี้

 

บริษัทที่บล.ดีบีเอสฯแนะนำ คือ AP และ LH

บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ เนื่องจากมีสินค้าคงเหลือที่มีราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาทต่อยูนิต บริษัทที่เราแนะนำ คือ AP (Thailand) Pcl. (AP) และ Land & Houses (LH) กำไรของ AP น่าจะแตะระดับสูงสุดอีกครั้งในปีนี้ เนื่องจากยอดขายล่วงหน้า (Backlog) และแผนการเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน LH คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานกำไรที่ต่ำในปีที่แล้ว บริษัทมีแผนที่จะนำห้างสรรพสินค้า Terminal 21 Pattaya เข้า กองทุนทรัสต์เพื่อการถือครองอสังหาฯ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง