รัสเซีย “ถอนกองกำลังสันติ” หลังม็อบสงบ-คาดไม่เกิน 10 วันพ้นแดนคาซัคฯ
รัสเซีย “ถอนกองกำลังสันติ” - เอเอฟพีและ รอยเตอร์ รายงานวันที่ 13 ม.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า เจ้าหน้าที่ทหารกว่า 2,000 นายในสังกัดกองกำลัง องค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน (ซีเอสทีโอ) เริ่มถอนกำลังออกจากคาซัคสถานแล้ว
Russian servicemen fold the national flag during the ceremony marking the beginning of the withdrawal of peacekeeping troops of the Collective Security Treaty Organisation (CSTO) from Kazakhstan, in Almaty, Kazakhstan January 13, 2022. REUTERS/Pavel Mikheyev
ภายหลังรัฐบาลรัสเซียสั่งประจำการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยจากเหตุประท้วงนโยบายขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ของรัฐบาลคาซัคสถานซึ่งนำไปสู่การปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและผู้ชุมนุม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้วอย่างน้อย 44 ราย แต่อาจมากกว่า 160 ราย กว่า 1,000 คนได้รับบาดเจ็บ และเกือบ 8,000 คนถูกจับกุม
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า “กองกำลังรักษาสันติภาพเริ่มเตรียการลำเลียงอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ขึ้นเครื่องบินขนส่งทางการทหารและจะกลับมายังที่ประจำการถาวร”
ขณะที่ประธานาธิบดีกาซิม-โจมาร์ต โตคาเยฟ ผู้นำคาซัคสถาน ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกโจมตีอย่างหนักภายหลังอนุญาตให้กองกำลังความมั่นคงยิงผู้ประท้วงที่ถูกเปรียบเทียบเป็นโจรติดอาวุธได้โดยไม่ต้องเตือนล่วงหน้า กล่าวว่าการถอนกองกำลังต่างชาติจะใช้เวลาไม่เกิน 10 วัน
Tajik servicemen march during the ceremony marking the beginning of the withdrawal of peacekeeping troops of the Collective Security Treaty Organisation (CSTO) from Kazakhstan, in Almaty, Kazakhstan January 13, 2022. REUTERS/Pavel Mikheyev
Belarusian servicemen take part in the ceremony marking the beginning of the withdrawal of peacekeeping troops of the Collective Security Treaty Organisation (CSTO) from Kazakhstan, in Almaty, Kazakhstan January 13, 2022. REUTERS/Pavel Mikheyev
Kazakh service members patrol a street following recent protests triggered by fuel price increase in Almaty, Kazakhstan January 12, 2022. REUTERS/Pavel Mikheyev
People gather near the city administration headquarters, which was set on fire during recent protests triggered by fuel price increase, in Almaty, Kazakhstan January 12, 2022. REUTERS/Pavel Mikheyev