ก.ล.ต. สหรัฐฯ เปิดรับโทเคนไนซ์ พร้อมทำงานร่วมกับผู้ออกโทเคน

#Tokenization #ทันหุ้น - ข้อมูลจาก Coindesk ได้ระบุว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) Hester Peirce กล่าวเมื่อวันอังคารว่า หน่วยงานกำกับดูแลเปิดกว้างที่จะหารือกับผู้เข้าร่วมอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการนำผลิตภัณฑ์มาทำเป็นโทเคน (Tokenizing Products) ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำถึงความซับซ้อนของการที่สินทรัพย์โทเคนไนซ์เหล่านี้มีปฏิสัมพันธ์กับสินทรัพย์ดั้งเดิม

"เรายินดีที่จะทำงานร่วมกับผู้ที่ต้องการทำโทเคน เราขอแนะนำให้พวกเขาเข้ามาพูดคุยกับเรา" เพียร์ซกล่าวในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่งาน Digital Assets Summit ณ ประเทศสิงคโปร์

หลักทรัพย์โทเคนไนซ์ (Tokenized Security) คือการเป็นตัวแทนดิจิทัลบนบล็อกเชนของการเป็นเจ้าของหรือสิทธิในสินทรัพย์อ้างอิง เช่น หุ้นหรือพันธบัตร นั่นหมายความว่าหลักทรัพย์เดียวกันนี้สามารถดำรงอยู่ในรูปแบบใบรับรองที่เป็นกระดาษและใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์แบบดั้งเดิม รวมถึงในรูปแบบโทเคนบนบล็อกเชน

ประเด็นสำคัญที่เพียร์ซชี้ให้เห็นคือการทำความเข้าใจว่ารูปแบบที่แตกต่างกันของหลักทรัพย์เดียวกันเหล่านี้มีความสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างไร

"คำถามบางอย่างคือ หลักทรัพย์โทเคนไนซ์มีปฏิสัมพันธ์กับหลักทรัพย์รูปแบบอื่น ๆ และรูปแบบอื่น ๆ ของหลักทรัพย์นั้นอย่างไร" เพียร์ซอธิบาย ขณะที่เรียกร้องให้มีแนวทางการกำกับดูแลการทำโทเคนไนซ์ที่ละเอียดอ่อน โดยกล่าวว่า

"ขึ้นอยู่กับวิธีการที่สิ่งต่าง ๆ ถูกทำเป็นโทเคน มันอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งในหลาย ๆ สิ่งที่แตกต่างกัน" เธอกล่าว

การทำโทเคนไนซ์โดดเด่นในฐานะหนึ่งในภาคย่อยของคริปโตเคอร์เรนซีไม่กี่ภาคส่วน เคียงข้าง Stablecoins ที่มีแอปพลิเคชันใช้งานจริงอย่างมีนัยสำคัญ สถาบันการเงินทั่วโลกกำลังนำการทำโทเคนไนซ์มาใช้เพื่อปรับปรุงสภาพคล่องของตลาดและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีการออกซื้อขายและจัดการสินทรัพย์ในระบบการเงินทั่วโลก

ข้อมูล ณ วันอังคาร มูลค่ารวมของตลาดการทำโทเคนไนซ์บนเชนอยู่ที่ 31,000 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของ RWA.xyz โดยมีมูลค่า 714 ล้านดอลลาร์ เป็นหุ้นโทเคนไนซ์

การวิเคราะห์ของ McKinsey ชี้ว่ามูลค่าตลาดรวมของสินทรัพย์โทเคนไนซ์ทั้งหมดอาจสูงถึงประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030

ที่มา SEC Willing to Engage with Tokenized Asset Issuers, SEC’s Hester Peirce Says