รีเซต

ศปช. ห่วงน้ำท่วมใต้ เร่งช่วยเหลือ เตือนรับมือฝนตกหนักต่อเนื่องถึงสิ้นเดือน

ศปช. ห่วงน้ำท่วมใต้ เร่งช่วยเหลือ เตือนรับมือฝนตกหนักต่อเนื่องถึงสิ้นเดือน
TNN ช่อง16
28 พฤศจิกายน 2567 ( 15:11 )
2

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. สั่งการทุกหน่วยในพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมหนักในภาคใต้อย่างใกล้ชิด และให้เร่งระดมกำลังพล เครื่องจักรเครื่องมือเข้าไปสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ 


ขณะที่ภาคใต้ ฝนยังตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้มีพื้นที่น้ำท่วม 7 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำสะสมเพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำหลาก ดินถล่มในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งต้องระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกด้วย

 

“ผอ.ศปช.แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมใต้ ซึ่งทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็ว และยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด หากเกิดเหตุต้องพร้อมอพยพทันที ขอให้ทุกหน่วยรีบเข้าพื้นที่ช่วยสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึงและเร็วที่สุด ทั้ง ปภ.กระทรวงกลาโหม กรมชลประทาน ฯลฯ รวมถึงเรื่องอาหารการกินก็สำคัญ  ได้สั่งการให้ชุมชนตั้งครัวชุมชน ขณะที่หลายหน่วย เช่น ศอ.บต. สนับสนุนวัตถุดิบ เช่น ข้าวสาร ไข่  เพื่อนำไปทำอาหารกล่อง แจกผู้ประสบภัยได้เร็วขึ้น”

 

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า วันนี้ น.ส.ธีรรัตน์  สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุมคณะทำงาน ศปช. พร้อมสั่งทุกหน่วยระดมสรรพกำลัง โดยเฉพาะเรือยนต์ เรือท้องแบน ล่าสุด กระทรวงกลาโหมเตรียมส่งเรือท้องแบนเข้าพื้นที่คืนนี้ รวม 25 ลำ ไป ที่จ.ยะลา 10 ลำ , จ.ปัตตานี 5 ลำ , จ.นราธิวาส 5 ลำและจ.สงขลา 5 ลำ เร่งช่วยอพยพประชาชนที่ตกค้างไปในที่ปลอดภัยและที่ศูนย์พักพิง ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดศูนย์พักพิงรวม 20 แห่ง ที่ จ.ยะลา 7 แห่ง และนราธิวาส 13 แห่ง  มีผู้เข้ารับบริการ 224 ราย  


ส่วนสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบ ปิดบริการ 8 แห่ง ที่ จ.ยะลา และสงขลา ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แต่ยังมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง พร้อมเตรียมทีม Sky Doctor รองรับผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน และย้ำให้สถานบริการสาธารณสุขป้องกันน้ำท่วม เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการประชาชน

 

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวเพิ่มเติมว่า สทนช. รายงานสถานการณ์ฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา (ช่วงวันที่ 21-27 พ.ย.) ในภาคใต้รวมแล้ว 1,138 มม. จากปริมาณฝนตกต่อเนื่องและตกสะสมดังกล่าว ทำให้ต้องแจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ระหว่างวันนี้ (28 พ.ย.67) ถึงวันที่ 10 ธันวาคมนี้  ที่ระดับน้ำในแม่น้ำและคลองสาขา มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดจะล้นตลิ่งและหลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมแม่น้ำจ.ปัตตานี นราธิวาส ยะลา ประกอบด้วย แม่น้ำปัตตานี บริเวณอ.เมือง จ.ยะลา , 


อ.ยะรัง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จะสูงกว่าตลิ่ง 2-2.50 เมตร , แม่น้ำสายบุรี บริเวณอ.รามัน จ.ยะลา สูงกว่าตลิ่ง 2-2.80 เมตร , คลองตุยง บริเวณ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ระดับสูงกว่าตลิ่ง 0.80-1.50 เมตร , แม่น้ำโก-ลก บริเวณอ.สุไหงปาดี อ.แว้ง อ.สุไหงโก-ลก และอ.ตากใบ จ.นราธิวาส ระดับสูงกว่าตลิ่ง 1.40-2.00 เมตร และคลองตันหยงมัส บริเวณอ.เมือง อ.ระแงะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.50-2.30 เมตร. ขอให้ประชาชนเฝ้าระวัง เตรียมอพยพสิ่งของ เครื่องใช้ สัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่ปลอดภัย และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ตอนล่าง จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้  ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดลง 2-5 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพให้ดีโดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง