รีเซต

สหรัฐฯ และอังกฤษ ห้ามพลเมืองไปที่สนามบินกรุงคาบูล เสี่ยงการก่อการร้าย

สหรัฐฯ และอังกฤษ ห้ามพลเมืองไปที่สนามบินกรุงคาบูล เสี่ยงการก่อการร้าย
TNN World
26 สิงหาคม 2564 ( 16:15 )
64
สหรัฐฯ และอังกฤษ ห้ามพลเมืองไปที่สนามบินกรุงคาบูล เสี่ยงการก่อการร้าย

Afghanistan: สหรัฐฯ และอังกฤษออกประกาศเตือนล่าสุด ห้ามพลเมืองของตนเดินทางไปที่สนามบินกรุงคาบูล เพราะอาจเกิดการก่อการร้ายที่สนามบิน ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ การฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ในอัฟกานิสถานลดลง 80% หลังตาลีบันยึดประเทศ

 

 


ประชาชนในอัฟกานิสถานเข้าแถวยาวหน้าธนาคารในกรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถาน รอกดเงินสดจากตู้ ATM เพราะกลัวว่าธนาคารจะถูกปิด รวมไปถึงคนที่รับแลกเงินและเทรดเดอร์ ต่างก็แสดงความหวั่นกลัวว่า ธนาคารในอัฟกานิสถานอาจถูกปิด หลังตาลีบันยึดประเทศ

 

 


ด้านสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถาน ประกาศเตือนภัยความมั่นคงครั้งใหม่เมื่อวานนี้ (25 สิงหาคม) เตือนพลเมืองสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน ไม่ให้เดินทางไปยังสนามบินนานาชาติฮาหมิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูลในเวลานี้ 

 

 


นอกจากนี้ ยังได้แจ้งเตือนพลเมืองสหรัฐฯ ที่อยู่ในสนามบินดังกล่าวแล้ว ทั้งที่แอ๊บบี้ เกท, อีสท์ เกท และนอร์ธ เกท เดินทางออกจากสนามบินในทันทีด้วย และเตือนชาวอเมริกันในอัฟกานิสถาน ให้ระมัดระวังตัวโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในฝูงชนจำนวนมาก
ประกาศเตือนความมั่นคงครั้งใหม่ของสหรัฐฯ ออกมาหลังจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ หลายคน เพิ่งออกมาเตือนว่า มีภัยคุกคามจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘ISIS-K’ ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ISIS หรือ IS ที่อาจก่อเหตุโจมตีฝูงชนที่อยู่กันเต็มแน่นในสนามบินแห่งนี้ เตรียมอพยพออกนอกอัฟกานิสถาน

 

 


ด้านกระทรวงต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ประกาศเตือนครั้งใหม่ต่อพลเมืองของตนในอัฟกานิสถาน ให้เลี่ยงสนามบินฮาร์หมิด คาร์ไซ เนื่องจากมีภัยคุกคามอย่างสูงว่า จะเกิดการก่อการร้ายที่สนามบิน และใครที่อยู่ใกล้กับสนามบิน ให้รีบเดินทางออกไปยังที่ปลอดภัยโดยเร็ว และรอฟังประกาศแนะนำต่อไป

 

 


ทั้งนี้ สนามบินนานาชาติฮาร์หมิด คาร์ไซ ถือเป็นจุดสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ในอัฟกานิสถาน ที่ต่างชาติยังสามารถเข้าถึงพลเมืองของตนเองในอัฟกานิสถานได้

 

 


ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบการอพยพชาวอเมริกันออกจากอัฟกานิสถาน ระบุว่า ขณะนี้ ตาลีบันเพิ่มการควบคุมอย่างเข้มงวดรอบสนามบินฮาหมิด คาร์ไซแล้ว 

 


ขณะเดียวกัน สหประชาชาติ หรือ UN เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ลดลง 80% หลังจากตาลีบันยึดอัฟกานิสถานได้ 
UN ตรวจพบว่า ในสัปดาห์ที่เริ่มต้นวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ตาลีบันยึดอัฟกานิสถานได้ทั้งประเทศนั้น มีชาวอัฟกันได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิดเพียง 30,500 คน ตกลงจากจำนวน 134,600 คนที่ได้ฉีดวัคซีนต้านโควิดในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น คิดเป็นสัดส่วนที่ลดลง 80%

 

 


นอกจากนี้ จำนวนจังหวัดที่ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด ก็ลดลงจาก 30 จังหวัดในสัปดาห์ก่อนหน้าตาลีบันยึดประเทศ เหลือ 23 จังหวัดหลังจากตาลีบันยึดอัฟกานิสถานแล้ว ทั้งนี้ อัฟกานิสถานมีทั้งหมด 34 จังหวัด

 

 


ด้าน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กดดันตาลีบันว่า ตาลีบันจะต้องรักษาสัญญาว่า จะยอมให้พลเมืองสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน เดินทางออกจากอัฟกานิสถาน แม้หลังจากเลยกำหนดเส้นตายถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานวันที่ 31 สิงหาคมนี้ 

 

 


บลิงเคน ประเมินว่า จะยังคงเหลือชาวอเมริกันอีกประมาณ 1,500 คน ที่ยังตกค้างอยู่ในอัฟกานิสถานขณะนี้ หลังจากสหรัฐฯ ได้อพยพพลเมืองอเมริกันและครอบครัวออกไปแล้วราว 4,500 คน ทั้งนี้ มีชาวอเมริกันในอัฟกานิสถานประมาณ 6,000 คน ที่แสดงความประสงค์จะอพยพออกจากอัฟกานิสถาน

 

 


ส่วนแผนเผชิญเหตุของสหรัฐฯ ระบุว่า จะใช้เวลา 2 วันสุดท้ายก่อนเส้นตาย 31 สิงหาคม ในการถอนทหารสหรัฐฯ ทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถานให้ทันภายในเส้นตายดังกล่าว และการอพยพพลเมืองอเมริกันในอัฟกานิสถานหลังเลยเส้นตาย จะไม่ใช้ทหารสหรัฐฯ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง