รีเซต

ก.ล.ต. เผยแผนยุทธศาสตร์ ปี 68 – 70 วางเป้าหมายหลัก 5 ด้าน

ก.ล.ต. เผยแผนยุทธศาสตร์ ปี 68 – 70 วางเป้าหมายหลัก 5 ด้าน
ทันหุ้น
30 มกราคม 2568 ( 16:14 )
10

#ทันหุ้น-สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แถลงแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2568 – 2570 ให้ความสำคัญกับยกระดับความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนการสร้างคุณค่าและความโดดเด่นให้บริษัทจดทะเบียนไทย มุ่งมั่นพัฒนาตลาดทุนไทยให้รองรับความต้องการของธุรกิจที่หลากหลายและเป็นตลาดทุนที่ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าถึงได้ ตลอดจนรองรับการปรับตัวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว

 

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ของ ก.ล.ต. ซึ่งได้รับเกียรติจากนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การพัฒนาตลาดทุนไทยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ” โดยมีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ประธานกรรมการ ก.ล.ต. กล่าวต้อนรับและรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน และศาสตราจารย์ ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวถึง “ทิศทางแผนยุทธศาสตร์สำนักงาน ก.ล.ต. ปี 2568 - 2570” พร้อมทั้งได้จัดให้มีเสวนาหัวข้อ “พลิกโฉมตลาดทุน โอกาสและความท้าทาย” โดยรองเลขาธิการ ก.ล.ต. ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง

 

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในช่วงปาฐกถาว่า “ตลาดทุนจะต้องเป็นกลไกสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน เศรษฐกิจและตลาดทุนจะทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาครัฐจะต้องเป็นผู้นำทางในการเสริมสร้างศักยภาพและโอกาสการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ โดยในส่วนของตลาดทุน สิ่งที่ภาครัฐเห็นว่าเป็นประเด็นสำคัญคือ Trust & Confidence โดยต้องมีกระบวนการการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้น ลงโทษผู้กระทำผิดได้รวดเร็ว และจะเร่งขั้นตอนการเสนอกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มอํานาจการสอบสวนของ ก.ล.ต. โดยเฉพาะกรณีที่มีผลกระทบสูง (high impact) รวมถึงการยกระดับในเรื่องต่างๆ ทั้งการเปิดเผยข้อมูลและการกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน 

 

นอกจากนี้ ในด้านสินทรัพย์ดิจิทัล อยากจะเห็นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างนวัตกรรมไปพร้อมกับการคุ้มครองผู้ลงทุน และเห็นว่าการส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีคุณภาพเป็นเรื่องสำคัญ โดยทางภาครัฐและภาคตลาดทุนจะร่วมมือกันพัฒนาตลาดทุน เพื่อนำไปสู่ตลาดทุนที่เข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน

 

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ประธานกรรมการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “นอกจากการกำหนดแผนยุทธศาสตร์แล้ว การขับเคลื่อนแผน (implement) เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดย ก.ล.ต. ต้องมีความคล่องตัว (agility) ในการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างเท่าทันเหตุการณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ทั้งการสร้างธรรมาภิบาลในตลาดทุนผ่านมาตรการต่าง ๆ ที่มีอย่างต่อเนื่อง การพัฒนากฎกติกาให้เป็นมาตรฐาน สามารถตรวจสอบ ป้องกันและลดความเสียหายได้ เช่น การจัดทำเกณฑ์การจำนำหุ้นที่จะออกมา"

 

"ในเร็ว ๆ นี้ การดำเนินการด้าน Trust & Confidence ยังมีเป้าหมายสำคัญคือ ความยุติธรรม (justice) ซึ่งต้องไม่ล่าช้า โดยปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ทำให้คดีที่คั่งค้างสามารถดําเนินการได้เร็วขึ้นจากปี 2566 อย่างชัดเจนถึง 3 เท่า และเชื่อว่าอนาคตจะยังพัฒนาขึ้นอีก ผ่านการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้ทางกฎหมายที่จะเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพและสร้างความน่าเชื่อถือต่อตลาดทุนไทย”  

 

ศาสตราจารย์ ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับกระบวนการที่สังเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ เช่น การศึกษาแนวโน้มและนโยบายตลาดทุนของต่างประเทศ ความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล การทำวิจัยเชิงลึก และการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนได้ใช้ประโยชน์จากตลาดทุนตามเป้าหมายของแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. รวมทั้งเพื่อให้ผู้ร่วมตลาด ตลอดจนผู้ลงทุนและประชาชน ได้เห็นทิศทางในการกำกับดูแลและกำหนดนโยบายในการพัฒนาตลาดทุนในระยะ 3 ปีข้างหน้า ซึ่ง ก.ล.ต. มุ่งหมายขับเคลื่อนแผนดังกล่าว โดยร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความสมดุลและสอดรับกับบริบทของประเทศ อันจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการส่งเสริมความเชื่อมั่นและความเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศต่อไป”

 

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2568 – 2570 มีเป้าหมายหลัก 5 ด้าน ได้แก่ 

(1) ตลาดทุนได้รับความเชื่อมั่น (Trust & Confidence)

(2) ตลาดทุนเป็นแรงขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Technology)

(3) ตลาดทุนเป็นกลไกสู่ความยั่งยืน (Sustainable Capital Market)

(4) ผู้ลงทุนมีสุขภาพทางการเงินที่ดี (Long-term Investment)

(5) ศักยภาพในการดำเนินการตามพันธกิจ (SEC Excellence)

 

“เป้าหมายทั้ง 5 ด้าน เป็นเป้าหมายที่ยกต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา เพราะยังสอดคล้องกับพันธกิจของ ก.ล.ต. ทั้งด้านการกำกับดูแลและการพัฒนา แต่ในปีนี้มีการปรับน้ำหนักเป้าหมายในแต่ละด้านให้สมดุลกันมากขึ้น เพื่อให้แผนงานมีความต่อเนื่องและสอดรับระหว่างเป้าหมายแต่ละด้านได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น” เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว

 

ทั้งนี้ เสวนาหัวข้อ “พลิกโฉมตลาดทุน โอกาสและความท้าทาย” โดยรองเลขาธิการ ก.ล.ต. ได้แก่ นางวรัชญา ศรีมาจันทร์ นายธวัชชัย พิทยโสภณ นางสาวจอมขวัญ คงสกุล และนายเอนก อยู่ยืน ร่วมให้มุมมองต่อการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ในระยะ 3 ปีข้างหน้า ซึ่งยังคงเน้นการทำงานเชิงรุกโดยเดินหน้ายกระดับความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้ตลาดทุนทำหน้าที่ในการเป็นแหล่งระดมทุนและลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ขณะเดียวกันยังคงมุ่งเน้นส่งเสริมศักยภาพของตลาดทุนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้สามารถแข่งขันและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนไทยมีแผนที่ชัดเจนในการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น สนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงและใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งสะสมความมั่งคั่งได้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการ และสามารถรองรับการเกษียณ 

 

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้มีการยกระดับระบบนิเวศและโครงสร้างพื้นฐานรองรับตลาดทุนดิจิทัล รวมทั้งส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเป็นกลไกสำคัญสู่ความยั่งยืนและเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ตลอดจนการยกระดับศักยภาพของ ก.ล.ต. ในการกำกับดูแลและการตรวจสอบ การใช้เทคโนโลยี ข้อมูลและนวัตกรรมในกระบวนการทำงาน รวมถึงการพัฒนาทักษะและความพร้อมของบุคลากรเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เกี่ยวข้องได้อย่างทันการณ์และมีประสิทธิภาพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง