เอไอเอ็มกรุ๊ปเปิดกลยุทธ์ ปี68มุ่งเติบโต-จ่ายยิลด์สูง

#AIM Group #ทันหุ้น - AIM Group ได้เปิดเผยกลยุทธ์ในปี 2568 ยังเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อเนื่องควบคู่กับการจ่ายผลตอบแทนที่ดี โดยมุ่งเน้นในเรื่องของ ESG การจัดเปิดกองทรัสตต์แบบใหม่ รวมถึงการหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ ขณะที่ยังหวังให้มีการลดดอกเบี้ยเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น

นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ็ม กรุ๊ป (AIM Group) เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในปี 2568 ท่ามกลางภาวะที่ผันผวน ราคากองกองทรัสต์ที่ปรับตัวลดลง รวมถึงมีทางเลือกในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น บริษัทยังตั้งเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปีที่แล้วมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) อยู่ที่ 16,130 ล้านบาท ในธุรกิจการบริหารจัดการกองทรัสต์ (REIT Management) มีโครงที่บริหารอยู่ 19 โครงการ แบ่งเป็น กอง AIMIRT กองทรัสต์ที่ลงทุนในทรัพย์สินประเภทอุตสาหกรรม ประมาณ 13,003 ล้านบาท และกอง AIMCG กองทรัสต์ที่ลงทุนในทรัพย์สินประเภทพาณิชยกรรม ประมาณ 3,127 ล้านบาท

@จ่ายปันผลสูง

ทั้งนี้ยังให้ความสำคัญควบคู่กับการให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งยังคงรักษาการจ่ายเงินปันผลให้เติบโตเท่ากับปีที่แล้ว ที่กองทรัสต์ AIMIRT จ่ายปันผลรวมทั้งปี 0.86 บาทต่อหน่วย สูงที่สุดในตลาด REIT อุตสาหกรรม คิดเป็นอัตราผลตอบแทนสูงถึง 8.1%

รวมถึงยังมีธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisory)  อย่างบริษัท เอม อินฟินิท จำกัด (AIM INFINITE) โดยเปิดธุรกิจนี้ใน 2565 จนถึงปัจจุบันมีการทำธุรกรรมตลาดทุนสำเร็จไปแล้วทั้งสิ้น 4 ธุรกรรม

@หาโอกาสลงทุน

โดยในปีนี้ได้กำหนดกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินการ มุ่งเน้น 3 เรื่องหลักด้วยกัน คือ  ESG-driven organization เน้นการพัฒนาองค์กรที่มีแนวคิดในเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับการพัฒนาบุคลากร, Fundamental & Sustainable Assets Investment การลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโอกาสในการจัดตั้งกองทรัสต์ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทใหม่ และ New Growth, New S-Curve การศึกษาความเป็นเป็นได้ในโอกาสในการทำธุรกิจใหม่จากความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น ทรัพย์สินประเภทโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงยังพิจารณาการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center), โรงแรม, ออฟฟิศ, โรงพยาบาล โดยพิจารณาจาก Value และผลตอบแทนที่เหมาะสม

@หวังลดดอกเบี้ย

ในส่วนประเด็นดอกเบี้ย มองว่าหากมีการลดดอกเบี้ยจะมีผลโดยตรงคือช่วยลดต้นทุนทางการเงินทันที ขณะที่ผลกระทบทางอ้อมจะส่งผลต่อการประเมินมูลค่าของสินทรัพย์ที่ลงทุน ดังนั้นการลดดอกเบี้ยอาจทำให้เกิดผลตอบแทนสองเด้ง ทั้งจากเงินจ่ายประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วย หรือ DPU (Distribution Per Unit) ที่เพิ่มขึ้นและราคาที่สูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น 2% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่กองทุนยังสามารถรักษาผลตอบแทนที่สม่ำเสมอได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการจัดการเงินกู้ ปัจจุบันสัดส่วนเงินกู้ของกองทุนอยู่ที่ประมาณ 27-28% หลังรวมกับกำไรจากดีลควบรวมและแปลงสภาพ (PPF) จากเดิมที่มี 30%

@กลยุทธ์การเติบโต

นายธนาเดช โอภาสยานนท์ กรรมการผู้จัดการของ AIM Group กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการระดมทุนในตลาด REIT ถือว่ายากมาก อย่างไรก็ตาม AIM Group ยังประสบความสำเร็จในการขยายการลงทุนสูงถึง 2,600 ล้านบาท ในทรัพย์สินที่มีคุณภาพสูง เลือกลงทุนในสินทรัพย์ คำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหน่วยเป็นสำคัญเท่านั้น ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นต้องคุ่มค่ากับเงินลงทุนและความเสี่ยงที่กองรีทจะต้องแลกและ การเติบโตจะคำนึงถึงโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสมกับทรัพย์สินที่ลงทุน