‘วราวุธ’รมว.ทส.ลุยดำน้ำเกาะล้าน วางแผนจัดการ Sea Walker

‘วราวุธ’รมว.ทส.ลุยดำน้ำเกาะล้าน วางแผนจัดการ Sea Walker สั่ง ‘กรมทะเล’ หารือทุกภาคส่วนวางเกณฑ์อนุญาตเข้ม เน้นท่องเที่ยวอย่างอนุรักษ์

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ได้นำทีมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ลงตรวจพื้นที่เพื่อหาแนวทางจัดการกิจกรรม Sea Walker โดยได้ย้ำให้ทุกฝ่ายมองเห็นทรัพยากรทางทะเลสำคัญกว่ารายได้จากการท่องเที่ยว พร้อมกำชับให้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง และให้วางแผนรองรับการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

นายวราวุธ กล่าวภายหลังการลงพื้นที่เกาะล้าน ว่า หลังจากที่ตนได้เคยได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ดำเนินคดีกรณีกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเมืองพัทยา นำกลุ่มนักท่องเที่ยวทำกิจกรรมเดินใต้ทะเล (Sea Walker) โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้ง ยังมีการจับสัตว์ทะเลและสัมผัสปะการังเล่น อย่างไรก็ตาม แม้จะได้ดำเนินคดีไปแล้ว แต่ในระยะยาว ตนได้สั่งการให้ ทช. เร่งหารือกับนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางในการจัดการ รวมทั้ง การกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานในการออกใบอนุญาตให้กับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและไกด์นำเที่ยวด้วย

นายวราวุธ ย้ำว่า ทรัพยากรปะการังและสัตว์ทะเลต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการฟื้นฟูให้คืนความสมบูรณ์ หากวันนี้เราทำเสียหาย กว่าจะคืนกลับมาไม่ใช่แค่รุ่นลูกที่จะได้เห็นทุกอย่างสมบูรณ์ อาจจะถึงรุ่นหลานเลยที่ได้เห็น เพราะฉะนั้นไม่คุ้มเลยหากต้องเสียปะการังและสัตว์ทะเล เพื่อแลกกับเม็ดเงินที่จะเข้าชุมชนหรือประเทศ ต้องท่องเที่ยวอย่างมีสติและคิดถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติเป็นสำคัญ

รมว.ทส. กล่าวว่า วันนี้ตนดำน้ำลงสำรวจสภาพปะการังและเส้นทางการทำกิจกรรม Sea Walker ซึ่งสภาพโดยรวมยังค่อนข้างสมบูรณ์ ทั้งนี้ตนได้มอบหมายนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. กำกับและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และให้มีการอบรมกลุ่มบริษัทท่องเที่ยว การกำหนดขั้นตอนและจำนวนนักท่องเที่ยวในการทำกิจกรรม Sea Walker มิให้เกิดศักยภาพที่ธรรมชาติจะรองรับได้ การกำหนดช่วงเวลาทำกิจกรรมและปล่อยให้ธรรมชาติได้พักฟื้นบ้าง รวมถึง การเพิ่มกำลังพลในการตรวจตราพื้นที่ การประกาศใช้กฎหมายเพิ่มเติมหากจำเป็น และสิ่งสำคัญ คือ การสร้างเครือข่ายพี่น้องประชาชนให้มีส่วนร่วมและช่วยกันเป็นหูเป็นตาร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเสริมความเข้มข้นในการเฝ้าระวังและสุดท้าย คือ การติดตามและประเมินผล หากยังคงสร้างผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ ก็คงต้องให้ยุติการทำกิจกรรมดังกล่าวอย่างเด็ดขาด

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) กล่าวเสริมว่า นับตั้งแต่ที่ ทช. ได้สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมเรือนำเที่ยวที่นำนักท่องเที่ยวเดินท่องเที่ยวใต้ทะเลบริเวณอ่าวทองหลาง เกาะล้าน เมืองพัทยา จ. ชลบุรี โดยไม่มีใบอนุญาตให้ประกอบการกิจกรรมเดินท่องเที่ยวใต้ทะเล ซึ่งมีความผิดตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2563 ในการห้ามกระทำการประกอบกิจการเรือภัตตาคาร เรือสถานบริการหรือการเดินท่องเที่ยวใต้ทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยผู้ฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้นำผู้ต้องหาจำนวน 4 คน พร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วนั้น

ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าพบหารือกับนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรฐานของบริษัทนำเที่ยวใต้ทะเลและไกด์นำเที่ยว ที่ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องกฎหมายและการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแล้ว

นายโสภณ ระบุว่า อีกทั้งได้ให้สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทุกแห่ง เร่งประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจกับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำ พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการตรวจตราให้เข้มงวดขึ้น หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าวขอให้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทันที เพื่อดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด