รัสเซียโจมตีรถตู้โดยสารยูเครนบริเวณแนวหน้า ระหว่างที่ยังคงมีการเจรจาสันติภาพ

สถานการณ์การสู้รบระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องในบริเวณแนวหน้าสมรภูมิรบ โดยมีรายงานว่า กองทัพรัสเซียได้ส่งโดรนบุกโจมตีใส่รถตู้โดยสาร เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (17 พฤษภาคม) ที่เมือง บิโลพิลเลีย ที่อยู่ในแคว้นซูมี ของยูเครน ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนรัสเซีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 7 คน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่การหารือระหว่างคณะผู้แทนของทั้งสองฝ่ายที่พบปะกันครั้งแรกในตุรกี เพียงไม่กี่ชั่วโมง
หลังเกิดเหตุ เซเลนสกี ก็ออกมากล่าวโจมตีว่า กองทัพรัสเซียตั้งใจโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือน ในขณะที่ฝ่ายรัสเซียยังคงไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก่อนหน้านี้รัสเซียก็ออกมาโต้ตอบอยู่ตลอดว่า กองทัพรัสเซียไม่เคยโจมตีใส่พลเรือน
อย่างไรก็ตาม การโจมตีน้ีเกิดขึ้นในขณะที่การเจรจาของคณะผู้แทนยูเครนและรัสเซียแบบพบปะกันครั้งแรกได้สิ้นสุดลงไปแล้วเมื่อวานนี้ (16 พฤษภาคม) โดยทั้งสองฝ่ายหารือกันอยู่ราว 2 ชั่วโมงในนครอิสตันบูล ของตุรกี ผลสรุปก็ไม่ได้คืบหน้าตามที่หลายคนคาดการณ์ เนื่องจากประเด็นหลักที่ยูเครนเรียกร้องขอให้มีการหยุดยิงแบบสมบูรณ์โดยที่ไม่มีเงื่อนไข ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจากฝ่ายรัสเซีย
จะมีเพียงประเด็นเดียวที่ดูจะคืบหน้าก็คือการแลกเปลี่ยนตัวเชลยศึกฝ่ายละ 1,000 คน ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดเหตุขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนมาตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี ในขณะที่ ฮาคาน ฟิดัน รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจาครั้งนี้ ก็หวังว่าการพบปะกันระหว่างคณะผู้แทนรัสเซียและยูเครนในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การพบปะกันระหว่างผู้นำของทั้งสองฝ่าย พร้อมกับระบุว่า ตุรกีจะทำทุกวิธีเพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างรัสเซียและยูเครน
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ตั้งความหวังไว้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ มากกว่า หลังจากที่เขาออกมาระบุว่าจะรีบหาเวลาไปพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อหารือเรื่องข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน
ส่วนท่าทีของทางยุโรปที่เป็นพันธมิตรของยูเครน อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และโปแลนด์ ต่างก็ยังคงผลักดันให้รัสเซียและยูเครน มีการหยุดยิงเป็นระยะเวลา 1 เดือน แบบที่ไม่มีเงื่อนไข พร้อมกับระบุว่าหากรัสเซียไม่ยอมรับก็จะใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงเพื่อกดดัน