รีเซต

นายกฯ เผยสมช. เห็นชอบรมว.กลาโหมประชุม GBC มุ่งเน้น "หยุดยิงทันที"

นายกฯ เผยสมช. เห็นชอบรมว.กลาโหมประชุม GBC มุ่งเน้น "หยุดยิงทันที"
TNN ช่อง16
26 ธันวาคม 2568 ( 19:21 )
14

วันนี้ ( 26 ธ.ค. 68 )สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 18/2568 โดยระบุว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) กับฝ่ายกัมพูชา ในวันพรุ่งนี้ ณ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมติดังกล่าวดังกล่าวถือว่าได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว 

เนื่องจากมีรัฐมนตรีหลายคนเข้าร่วมประชุม สมช. ในวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ส่งผลให้การเจรจาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกับฝ่ายกัมพูชา มีอำนาจโดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย

สำหรับปฏิญญาร่วมที่ไทยและกัมพูชาได้ลงนามไว้ก่อนหน้านี้ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ยังคงอยู่ในกรอบการดำเนินการเดิม เนื่องจากประเทศไทยได้ปฏิบัติตามหลักการสำคัญทั้ง 4 ข้อมาโดยตลอด หากการเจรจาในวันพรุ่งนี้สามารถบรรลุข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกันได้ การดำเนินการต่าง ๆ ก็จะยังอยู่ภายใต้กรอบของปฏิญญาร่วมดังกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า หากทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกัน เอกสารผลลัพธ์จากการประชุมวันพรุ่งนี้ จะเป็น “ถ้อยแถลงร่วม” (Joint Statement) ซึ่งจะมีสาระสำคัญคือ การหยุดยิงทันที และทั้งสองฝ่ายต้องรักษาคำมั่นสัญญาระหว่างกัน ไม่ให้มีการคุกคามหรือยั่วยุ และลดความเสี่ยงต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ โดยจากข้อมูลที่ได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคง แนวโน้มการเจรจามีทิศทางที่ดี และอาจนำไปสู่ข้อยุติที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า เป้าหมายหลักของไทยคือการรักษาอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งฝ่ายกองทัพได้รายงานต่อรัฐบาลและ สมช. แล้วว่า ไทยสามารถบรรลุเป้าหมายทางการทหาร และควบคุมพื้นที่เป้าหมายตามที่กำหนดไว้ได้ครบถ้วน ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการนำไปเจรจาต่อรองกับฝ่ายกัมพูชา

สำหรับถ้อยแถลงร่วมที่อาจจะมีการลงนาม จะยึดตามหลักการ 4 ข้อในปฏิญญาร่วมเดิม ซึ่งรวมถึงความร่วมมือด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามขบวนการหลอกลวงออนไลน์หรือสแกมเมอร์ โดยหากฝ่ายกัมพูชายอมรับเงื่อนไขดังกล่าว ก็อาจมีการพิจารณาแนวทางนำไปสู่การปล่อยตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย

นายกรัฐมนตรีกล่าวเน้นย้ำว่า ไทยไม่สามารถบังคับให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรักษาสัญญาได้ แต่สิ่งสำคัญคือประเทศไทยได้บรรลุเป้าหมายในเบื้องต้นแล้ว ทั้งในมิติทางทหารและการประกาศบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งเป็นหลักประกันว่าไทยสามารถใช้เป็นฐานในการเจรจาอย่างมีศักดิ์ศรี พร้อมยืนยันว่า ไทยจะรักษาข้อตกลงและเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด และหวังว่าการลงนามครั้งนี้จะนำไปสู่สันติภาพอย่างยั่งยืน ประชาชนสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้โดยปลอดภัย และเกิดความสงบสุขในพื้นที่ชายแดน

ขณะเดียวกัน เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้ทบทวนหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะจากรอบที่ผ่านมาแต่การปฏิบัติที่ผ่านมามีข้อจำกัด วันนี้จึงมีการทบทวนเพื่อให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น พร้อมเสนอเพิ่มกรอบวงเงินสนับสนุนเงินเยียวยา รวมประมาณ 577 ล้านบาท ครอบคลุมผลเสียหายที่เกิดกับประชาชน ทหาร และตำรวจ ซึ่งจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในการประชุมวันอังคารหน้า

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง