"ไทย-มาเลย์" จ่อผ่อนปรน 2 ด่าน "ปาดังเบซาร์-บ้านประกอบ" ระบายสินค้าชายแดน

“ไทย-มาเลย์” จ่อผ่อนปรน 2 ด่าน “ปาดังเบซาร์-บ้านประกอบ” ระบายสินค้าชายแดน

ก.พาณิชย์- เมื่อวันที่ 27 เมษายน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กล่าวภายหลังร่วมกับ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อประชุมติดตามการส่งออกสินค้าเกษตร บริเวณด่านการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ร่วมกับหัวหน้าด่านศุลกากร ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ว่า การส่งออกสินค้าบางชนิดยังอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะมาเลเซียต้องการน้ำยางพาราข้นจากไทยปริมาณมาก เพื่อไปผลิตถุงมือยาง ซึ่งเป็นความต้องการของตลาดโลก

“เพราะในช่วงวิกฤตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ความต้องการถุงมือยางสูงขึ้นมาก และโรงงานผลิตถุงมือยางจำนวนมากอยู่ในฝั่งมาเลย์ เพราะฉะนั้นน้ำยางข้นจากไทยก็ส่งไปจากทางใต้ แล้วข้ามด่านมาเลย์ไป ข้ามด่านสะเดา ข้ามด่านปาดังเบซาร์ เป็นด่านหลักไปยังมาเลย์ รวมถึงด่านบ้านประกอบบางส่วน” นายจุรินทร์ กล่าว

รัฐมนตรีว่าการ พณ. กล่าวว่า ประเด็นปัญหาขณะนี้ คือ ด่านปาดังเบซาร์ กับด่านบ้านประกอบนั้น ไทยส่งออกสินค้าไปไม่สะดวกคล่องตัว สำหรับด่านปาดังเบซาร์ ประเทศมาเลเซียอนุญาตเฉพาะผลิตภัณฑ์ยาง ยางแผ่น น้ำยางข้นได้ แต่ว่าผลไม้ ไม้ยาง สินค้าชนิดอื่นยังส่งออกไปไม่ได้ ก็ยังเป็นปัญหา ด่านบ้านประกอบเกือบจะเรียกว่าปิดด่าน ยังเปิดไม่ได้ ผลไม้อีก 1-2 เดือน ลองกองจะออกเพิ่ม มังคุด ผลไม้ทางภาคใต้จากจันทบุรี ภาคตะวันออกอาจจะต้องส่งผ่านด่านพวกนี้ไปประเทศมาเลเซียจะติดขัดปัญหา

“ถึงเวลาที่เราจะต้องเจรจากับทางการประเทศมาเลเซีย จึงเริ่มต้นด้วยการทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของมาเลเซีย ขอให้เร่งผ่อนปรนให้เราส่งสินค้าผ่านด่านปาดังเบซาร์ กับด่านบ้านประกอบไปได้คล่องตัวขึ้น ไม่อย่างนั้นทุกอย่าจะไปกระจุกตัวอยู่ที่ด่านสะเดา ตอนนี้การจราจรตึงมาก ทางโน้นตรวจเข้ม พอทางโน้นมาทางเราก็ตรวจเข้ม เพราะกลัวโควิดด้วยกันทั้งคู่ เพราะฉะนั้นมันก็จะกระทบ” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า หลังจากได้ทำหนังสือไปแล้ว ทางการมาเลเซียตอบว่าอีก 1-2 สัปดาห์ จะได้พิจารณาในสภาความมั่นคงของมาเลเซีย ซึ่งก็ต้องรอคำตอบ เป็นอย่างไรก็จะแจ้งให้ทราบ ก็หวังว่าทางมาเลเซียก็คงจะพยายามผ่อนปรน เพราะเขาต้องการสินค้านำเข้าจากเรา ขณะเดียวกันก็ต้องการส่งสินค้าออกมาที่เราเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าด่านคล่องตัว จะคล่องทั้ง 2 ฟาก ทั้งขาไปขากลับ

สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ความจริงแล้วในวิกฤตมีโอกาส นโยบาย พณ.ที่กำลังทำคือ พลิกโควิด-19 เป็นโอกาส ในการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ คือพณ. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาดแล้วจับมือทำงานร่วมกันกับภาคเอกชน ในการกำหนดทิศทางในการผลิตสินค้า เพื่อสนองความต้องการของตลาดในช่วงโควิด-19 ได้

“ขณะเดียวกัน จะเปิดตลาดไปยังต่างประเทศให้คล่องตัวขึ้นอย่างไร ภายใต้ข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกำหนดแผนทำงานร่วมกับกับภาคเอกชน จึงเป็นที่มาที่เดินสาย พา พณ., กษ.ไปพบภาคเอกชนแต่ละภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจไก่แช่แข็ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการผลิตสินค้าเกษตรแปรรูปต่างๆ ทั้งในรูปของอาหารทะเลแช่แข็ง อาหารทะเลกระป๋อง และในส่วนสินค้าชนิดอื่นๆ ที่จะได้พบปะกัน เพื่อเปิดตลาดเพิ่มเติม ก็ได้พบกันหลายภาคส่วน และเตรียมการทำตัวเลขส่งออกให้เพิ่มมากขึ้น” รัฐมนตรีว่าการ พณ. กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับผลไม้เพิ่งได้พูดคุยกับทูตญี่ปุ่นว่าจะช่วยระบายสินค้า โดยเฉพาะผลไม้ไทยไปยังตลาดญี่ปุ่นเพิ่มเติม ได้ขอให้ทูตญี่ปุ่นช่วยสนับสนุนผ่านการประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ของญี่ปุ่น รวมทั้งรายการโทรทัศน์เด่นๆ ดังๆ ที่คนญี่ปุ่นชมมากๆ ทีวีไดเร็ก ทีวีช้อปชาแนล ของญี่ปุ่น ซึ่งทูตญี่ปุ่นก็รับไปแล้วว่าจะช่วยประสานให้ อันนี้ก็จะช่วยให้เราส่งผลไม้ไปขายญี่ปุ่นได้มากขึ้น โดยเฉพาะผลไม้หลายชนิด

“ผมต้องขอขอบคุณในนามรัฐบาลด้วย ไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่ในภาพรวม ถือว่าให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเป็นอย่างดียิ่งในการที่จะจับมือฟันฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน มาตรการที่รัฐบาลออกมาในภาพรวม ผมเรียนว่าทั้งหมดด้วยความปรารถนาดีทั้งกับพี่น้องประชาชนทั้งในด้านสุขภาพ และในด้านเศรษฐกิจ ในการที่เราจะจับมือร่วมกันฟันฝ่าภัยครั้งนี้ไปด้วยกันให้ได้ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี เราคำนึงถึงทั้งสุขภาพ ทั้งเศรษฐกิจไปในขณะเดียวกัน ไม่ได้คิดด้านใดด้านหนึ่ง แล้วก็ทิ้งด้านใดด้านหนึ่ง ถือว่าประเทศไทยนี้ประสบความสำเร็จตามสมควรเมื่อเทียบกับหลายประเทศ แล้วก็ถือว่าได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนอย่างดียิ่ง ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ แล้วก็มั่นใจว่าอีกไม่นาน เราจะร่วมมือร่วมใจกันฟันฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดี และประเทศของเราก็จะเดินหน้าไปได้” นายจุรินทร์ กล่าว