#PRINC#ทันหุ้น- PRINC ดีลคืบหน้า! ขายสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ก้อนโต5.94 พันล้านบาท คาดชัดเจนสิงหาคมนี้ ชี้หากลุล่วงหนุนต้นทุนลด-มาร์จิ้นพุ่ง พร้อมส่งซิก Q3/2567 ผลงานกระหึ่ม รับราคาพิเศษหนุน-รพ.สดใส พร้อมวางหมากปี 2568 ผลงานเทิร์นอะราวน์ อานิสงส์ปรับโครงสร้างเสร็จ-เก็บเกี่ยวธุรกิจธุรกิจโรงพยาบาลเต็มปีนายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล รักษาการประธานคณะกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เปิดเผยว่า ในแง่ประเด็นเกี่ยวกับกับแนวทางการขายสินทรัพย์ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์นั้นปัจจุบันคืบหน้าไปค่อนข้างมาก ซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณ 5.94 พันล้านบาท แบ่งเป็น โรงแรม, อาคารสำนักงาน โดยคาดน่าจะสามารถเห็นความชัดเจนได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้*จ่อบุ๊กขายอสังหา5.9พันล.ทั้งนี้ ภายหลังการขายสินทรัพย์เสร็จสิ้น ทาง PRINC จะนำเงินที่ได้ประมาณ50% ไปชำระเงินคืนเงินกู้ของสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการเงินที่ต้องลดลงราว50% หรือประมาณ 160 ล้านบาท โดยในปีนี้จะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนของดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดลงตั้งแต่ช่วงไตรมาส4/2567 เป็นต้นไป และเงินที่เหลือนั้นบริษัทไปใช้ลงทุนขยายธุรกิจในกลุ่มเฮลแคร์ เพื่อต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติบโตในระยะยาวให้ดียิ่งขึ้นขณะที่แนวโน้มผลงานในไตรมาส3/2567 บริษัทคาดจะได้เห็นการเติบโตอย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 เนื่องจากมีการรับรายได้และกำไรจากการขายสินทรัพย์ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์เข้าเสริม นอกเหนือ จากธุรกิจในกลุ่มโรงพยาบาลและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่ล้วนเติบโตได้เป็นอย่างดี*รุกอัพฐานเพิ่มอย่างไรก็ดี ในปี 2567 ทาง PRINC ประเมินว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เพิ่มขึ้น15-20% เมื่อเทียบกับปี 2566 เนื่องจากภาพรวมธุรกิจในกลุ่มเฮลแคร์ อาทิ โรงพยาบาล ฯลฯ เติบโตได้ดียิ่งขึ้น หลังมีการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลใหม่เข้าเพิ่มเติม ประกอบกับยังมีรายรับจากการขายสินทรัพย์ทั้งโรงแรมและอาคารสำนักงานเช่าเข้ามาเสีริมด้วยอย่างไรก็ดี ล่าสุดทาง PRINC เข้าซื้อหุ้นในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วยโรงพยาบาลเชียงใหม่ ฮอสพิทอล โรงพยาบาลราชสีมา ฮอสพิทอลและโรงพยาบาลพิษณุโลก ฮอสพิทอล จำนวนเตียงรวม 145 เตียง จาก MY HOSPITAL ซึ่งคิดเป็นมูลค่าลงทุนในส่วนดังกล่าวราว700 ล้านบาท เพื่อเดินหน้าธุรกิจเฮลแคร์ และขยายฐานผู้ใช้บริการให้กว้างขึ้น รวมทั้งยังสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวอีกทางหนึ่ง ตลอดจนส่งผลให้โรงพยาบาลในเครือทั้งหมดของ PRINC ขยับเพิ่มเป็น18 แห่ง จากเดิม 15 แห่งขณะเดียวกันประโยชน์จะตกกับผู้รับบริการ เนื่องจากการขยายโรงพยาบาลเอกชนแบบเครือข่าย ด้านการรักษาส่งต่อโรคยากซับซ้อน เพิ่มศักยภาพการให้บริการและมีการบริหารเครื่องมือและทรัพยากรทางการแพทย์ให้เกิดประสิทธิภาพผ่านรูปแบบShared Services ขณะที่ความต้องการเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเอกชนในต่างจังหวัดยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามสภาพเศรษฐกิจสังคมเมืองที่เติบโตต่อเนื่องด้วย*ปี68เทิร์นอะราวน์เต็มตัวนอกจากนี้ ในปี 2568 ภายหลังทาง PRINC มีการปรับโครงสร้างธุรกิจเสร็จสิ้นจากการขายสินทรัพยืในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ออกไปทั้งหมดในปี 2567 (เดิมคิดเป็นรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ราว 10%) และจะหันมารุกธุรกิจเฮลแคร์ให้มากขึ้น เพราะมองยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ประกอบกับการเริ่มรับรู้ภาระดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเต็มปีเป็นปีแรกในปี 2568 จึงทำให้บริษัทคาดผลประกอบการปี 2568 จะสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรได้อย่างชัดเจน ตอบรับผลบวกต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด