พุทธิพงษ์ เปิด 5 รายชื่อ บอร์ดเอ็นที ย้ำคนนอกนั่งซีอีโอ
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า การหารือร่วมกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพื่อขอความชัดเจนเรื่องการควบรวมกิจการ 2 บริษัท เป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งนอกจากเรื่องสวัสดิการและรายได้ที่สหภาพเป็นกังวลแล้ว ยังมีเรื่องกระบวนการควบรวม ซึ่งต้องการให้ควบรวมเป็นธุรกิจเดียวกันในครั้งแรก แต่ส่วนตัวได้ให้เหตุผลว่า หากทำเช่นนั้นจะกระทบต่อสิ่งที่สัญญาไว้กับสหภาพและผู้บริหารระดับต่างๆ ซึ่งดีอีเอสต้องทำตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) คือ ต้องควบรวมโดยไม่กระทบต่อรายได้และสวัสดิการของพนักงาน แม้โดยหลักการที่ปรึกษาจะให้แนวทางในการควบรวมแบบหลักสากล แต่ไม่สามารถทำตามได้ เพราะทั้งสององค์กรมีวัฒนธรรมที่ยาวนาน การควบรวมต้องเข้าใจใจของพนักงานทุกระดับด้วย
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าเรื่องการเสนอรายชื่อคณะกรรมการ มีจำนวน 5 คน ประกอบด้วย พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แคท, น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ประธานบอร์ด ทีโอที, นายจุมพล ริมสาคร รองปลัดกระทรวงการคลัง, นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ และหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ซึ่งต้องผ่านความเห็นชอบจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหม จากนั้นเสนอคณะ กรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อพิจารณา ส่วนกรรมการผู้จัดการใหญ่เอ็นที อยู่ระหว่างการคัดเลือกคนนอกเข้ามาทำหน้าที่ เพื่อให้วันที่ 7 มกราคม 2564 สามารถจดทะเบียนเป็นเอ็นทีอย่างสมบูรณ์
สำหรับ พ.อ.สรรพชัย นั้น เมื่อหมดวาระการเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ แคท แล้ว เพื่อให้การทำงานต่อเนื่อง เพราะ พ.อ.สรรพชัย ดำเนินการเรื่องควบรวมมาตั้งแต่ต้น นอกจากจะแต่งตั้งให้เป็นบอร์ดเอ็นทีแล้ว ต้องแต่งตั้งให้ พ.อ.สรรพชัย กลับเข้ามารักษาการในตำแหน่งผู้บริหารดูแลสายงาน แคท ด้วย ส่วนนายมรกต เธียรมนตรี ยังคงเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตามเดิม เพื่อดูแลสายงานของ ทีโอที
“เอ็นทีจะกลายเป็นบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติที่มีศักยภาพในการให้บริการโดยเฉพาะ 5G และ ดาวเทียม ทั้งการนำดิจิทัลมาให้บริการในภาคสาธารณสุข, การเกษตร และคมนาคม โดย เอ็นที จะเป็นผู้รวบรวมบิ๊กดาต้าผ่าน 5G ที่ประมูลได้ ซึ่งจะเริ่มนำมาให้บริการ ในภาคสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
ขณะที่ พ.อ.สรรพชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ แคท กล่าวว่า การร่วมมือกันของ 2 หน่วยงาน เพื่อพัฒนาบริการที่ยึดประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งเป็นเป้าหมายของการควบรวมกิจการไปสู่การเป็นเอ็นที ด้วยจุดแข็งของ แคท ในเรื่องโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำและภาคพื้นดิน จะสนับสนุนการให้บริการด้านโทรคมนาคมและดิจิทัลร่วมกันของทั้งสองหน่วยงานมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาดิจิทัลโซลูชันที่หลากหลาย เน้นการใช้เทคโนโลยีบนโลกออนไลน์ทั้งในภาคธุรกิจและภาคประชาชน
เช่นเดียวกับ นายมรกต รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวว่า มั่นใจว่า เมื่อควบรวมทั้ง 2 องค์กรแล้ว เอ็นที จะเป็นกลไกของรัฐที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศและประชาชนสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างเข็มแข็ง ซึ่งทีโอที พร้อมที่จะนำทรัพยากรไม่ว่าจะเป็นระบบสื่อสัญญาณโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมและดิจิทัล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการที่มีความชำนาญในการให้บริการซึ่งมีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ ตอบสนองความต้องการใช้บริการสื่อสารโทรคมนาคมในทุกๆ ด้าน เพื่อให้คนไทยได้ใช้โทรคมนาคมด้านดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ