รีเซต

ชง"บิ๊กตู่"เคาะเอสเอ็มอีคนละครึ่ง สสว.อัด 80 ล้านช่วยลดต้นทุน

ชง"บิ๊กตู่"เคาะเอสเอ็มอีคนละครึ่ง สสว.อัด 80 ล้านช่วยลดต้นทุน
มติชน
1 มีนาคม 2564 ( 11:35 )
90

 

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า วันที่ 8 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(บอร์ดสสว.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยสสว.เตรียมเสนอวาระสำคัญคือ โครงการคนละครึ่งภาคเอสเอ็มอี เพื่อลดรายจ่ายให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ช่วยเหลือผ่านระบบผู้ให้บริการทางธุรกิจ หรือบีดีเอส อาทิ ธุรกิจออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การขอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ และหน่วยงานฝึกอบรม โดยสสว.จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับเอสเอ็มอีครึ่งหนึ่ง ล่าสุดมีหน่วยงานบีดีเอส เข้าร่วมกับสสว.แล้วกว่า 100 ราย คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง

 

อ่านข่าว เปิดกู้แล้ว! สินเชื่อเอสเอ็มอี ดอกแค่1% สูงสุด5ล้าน ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน

 

“ตอนนี้สสว.กำลังรอรายละเอียดในการสนับสนุน ระดับราคา และมาตรฐานของหน่วยงานบีดีเอส ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้เอสเอ็มอีที่เข้าใช้บริการได้รับประโยชน์เต็มที่ ตรงกับความต้องการ วงเงินสนับสนุนเบื้องต้นจะมาจากเงินอุดหนุนของสสว. ประมาณ 80 ล้านบาท หากมาตรการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบ จากการหารือภาครัฐจะสนับสนุนวงเงินเพิ่มด้วย โครงการนี้สสว.จะทำเป็นมาตรการถาวร ส่งเสริมทุกปี แต่รายละเอียดการส่งเสริมจะเปลี่ยนไปตามเป้าหมายของรัฐบาล อาจเน้นกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย หรือกลุ่มเอสเอ็มอีที่ต้องการช่วยเหลือในช่วงเวลานั้นๆ”นายวีระพงศ์กล่าว

 

นายวีระพงศ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ สสว.จะเร่งผลักดันให้เอสเอ็มอี เข้ามาลงทะเบียนกับ สสว. เพื่อเข้าถึงสิทธิประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ที่กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐจะต้องซื้อสินค้า และบริการจากเอสเอ็มอีไม่ต่ำกว่า 30% รวมทั้งเปิดช่องให้เอสเอ็มอีที่เสนอราคาสูงกว่าราคาต่ำสุด 10% สามารถเป็นผู้ชนะการแข่งขันได้ ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ามาสมัครเพียง 5,000 – 6,000 ราย จากเอสเอ็มอีทั่วประเทศประมาณ 3 ล้านราย โดยสสว. มีเป้าหมายภายในเดือนมีนาคม จะเพิ่มเป็น 10,000 ราย และสิ้นปีงบประมาณ 2564 จะเพิ่มเป็น 1 แสนราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง