ตรวจเช็คสุขภาพ 2 หุ้นโรงพยาบาล BH-BDMS น่าลงทุนแค่ไหน
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้นบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH โดยคาดว่าผลดำเนินในไตรมาส 3/66 เติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีกับ BH อย่างมาก เพราะรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติมีสัดส่วนสูงถึง 66% ในครึ่งแรกปีนี้ และผู้ป่วยที่มี intensity สูงทั้งชาวไทยและต่างชาติกลับมารับการรักษา โดยคาดว่ารายได้ไตรมาส 3/66 จะโตในระดับสองหลักเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ฝ่ายวิจัยเคจีไอฯ ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 ของ BH ขึ้นอีก 28.6% เนื่องจากกำไรในครึ่งปีแรกแข็งแกร่งเกินคาด และจะดีต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ทำให้กำไรสุทธิในปี 2566 เป็น 6.93 พันล้านบาท เติบโต 40.4% และยังได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567 ขึ้นอีก 24.8% ทำให้กำไรสุทธิเป็น 7.39 พันล้านบาท เติบโต 6.6% โดยฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ขึ้น และปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้เป็น 49.5% จากเดิมที่ 46.5% ส่วนในปีหน้าเพิ่มเป็น 50.0% จากเดิมที่ 46.5%
โดยฝ่ายวิจัยได้ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายของปี 2567 ในหุ้น BH เป็น 300 บาท จากเดิมที่ใช้ราคาเป้าหมายกลางปี 2567 ที่ 270 บาท และเลือกเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มโรงพยาบาล
ด้านบล.กรุงศรี แนะนำซื้อหุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS โดยคาดว่ากำไรในงวดไตรมาส 3/66 จะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับไตามาสก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากผู้ป่วยชาวไทย (เป็นช่วงโรคระบาดตามฤดูกาลสูงสุดของปี และ SSO ขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัว 10.2%) จากผู้ป่วยต่างชาติ (จาก wait list ของผู้ป่วยที่สูงถึง 20,000 ราย และคาดผู้ป่วยตะวันออกกลาง และเมียนมาร์จะเพิ่มขึ้น) บริษัทจะโฟกัสที่ศูนย์โรคเฉพาะทาง ซึ่งจะสร้างรายได้และอัตรากำไรเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ BDMS ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนผู้ลงทะเบียน SSO เป็น 1 ล้านคนจากปัจจุบัน 770,000 คน โดยบริษัทยังมีโควตาที่โรงพยาบาลเจ็ดแห่ง 193,000 คน รายได้เดือนก.ค.ของ BDMS โต 6-8% ซึ่งเป็นไปตามเป้าของบริษัท และประมาณการของฝ่ายวิจัย โดยให้ราคาเป้าหมายหุ้น BDMS ที่ 37.00 บาทต่อหุ้น