รีเซต

ตามจับรอบ2 พ่อมดคริปโตเคอเรนซี่ ตุ๋น 500 ล้าน หลบหนีคดีระหว่างประกันตัว พบหมายจับอื้อ

ตามจับรอบ2 พ่อมดคริปโตเคอเรนซี่ ตุ๋น 500 ล้าน หลบหนีคดีระหว่างประกันตัว พบหมายจับอื้อ
ข่าวสด
25 ธันวาคม 2564 ( 17:09 )
69

วันที่ 25 ธ.ค.2564 ที่บก.ป. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายมานะ จูเมือง อายุ 50 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดพิจิตร ที่ 157/2564 วันที่ 23 ธ.ค. 2564 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ได้ที่หน้าบ้านพักของผู้ต้องหา ภายในซอยรามอินทรา34 แยก 22 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2561-2562 นายมานะ ผู้ต้องหา ร่วมกับพวกทั้งคนไทยและเวียดนาม อ้างตัวเป็นนักค้าเงินสกุลดิจิทัล หรือคริปโตเคอเรนซี่ โดยจะมีผู้ร่วมขบวนการ ที่มีทั้งผู้คอยเปิดบัญชี ,เจรจาหลอกลงทุน และผู้ควบคุมเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด

ส่วนตัวนายมานะนั้นเป็นหัวหน้าขบวนการ ที่อ้างตัวเป็น “พ่อมด คริปโตเคอเรนซี่” (ผู้ที่ชำนาญด้านการค้าเงินสกุลดิจิตอล) เพิ่มความน่าเชื่อถือ คอยชักจูงกลุ่มผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลต่างๆ ได้ง่าย โดยมักอ้างกับเหยื่อว่า เงินที่มาร่วมลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสูงและกำไรดี เช่น ลงทุนเงินเพียง 200 วัน จะได้กำไรทันที 400 %

นอกจากนี้กลุ่มผู้ต้องหายังชักชวนผู้เสียหายให้ลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลสกุล “เงินวันคอยน์ “ อ้างว่าได้เปิดแพลตฟอร์มไว้สำหรับซื้อขายสินค้าขึ้นมา ที่เปิดให้ใช้เงินดิจิตอลสกุลวันคอยน์โดยเฉพาะ ซึ่งในแพลตฟอร์มดังกล่าวจะมีสินค้ามาลงประกาศขายเป็นจำนวนมาก อาทิ บ้านพักอาศัย, รถยนต์, ที่ดิน, ทองคำ, อาหารเสริม, เครื่องสำอาง และเสื้อผ้า

โดยนายมานะอ้างว่า ผู้ร่วมลงทุนจะได้ค่าตอบแทนสูง และยังมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจในการแลกสินค้าต่างๆ เช่น ทองคำ, รถเบ๊นซ์ หรือบ้านเดี่ยว ทำให้มีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างประเทศ จนมีการร่วมลงทุนเป็นเงินมากกว่า 500 ล้านบาท

ต่อจากนั้นในช่วงแรก ๆ ก็มีการจ่ายเงินปันผลจริง แต่เมื่อมีเหยื่อหลงเชื่อเพิ่มมากขึ้น กลุ่มผู้ต้องหาก็เริ่มไม่จ่ายค่าตอบแทน ก่อนที่จะตัดขาดการติดต่อหนีไปในที่สุด จนกลุ่มผู้เสียหายต้องเข้าแจ้งความตำรวจในท้องที่ต่างๆ จนมีการออกหมายจับ ก่อนที่นายมานะจะถูกกองปราบปรามฯ ตามจับกุมตัวไว้ได้เมื่อปลายปี 2562

ภายหลังการจับกุม หลังจากคดีขึ้นสู่ชั้นศาลแล้ว นายมานะก็ได้ขอประกันตัวสู้คดี แต่หลังจากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว กลับหลบหนีการพิจารณาในชั้นศาล จนถูกออกหมายจับ ก่อนจะถูกตามจับกุมตัวไว้ได้อีกครั้ง สอบสวน นายมานะ ให้การปฏิเสธ และไม่ขอให้รายละเอียดใดๆ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ พบนายมานะยังมีหมายจับคดีลักษณะเดียวกันติดตัวอีกถึง 14 คดี จึงนำตัวส่งศาลจังหวัดพิจิตร ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง