ประชุมโต๊ะกลมเศรษฐกิจจีน : ตรรกะวิบัติของวาทะ 'กำลังผลิตล้นเกินจากจีน'
(แฟ้มภาพซินหัว : คนดูรถยนต์ของบีวายดี ผู้ผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำของจีน ที่งานแสดงยานยนต์นานาชาติปักกิ่ง ปี 2024 ในกรุงปักกิ่งของจีน วันที่ 4 พ.ค. 2024)
ปักกิ่ง, 20 พ.ค. (ซินหัว) -- คณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญทางอุตสาหกรรมของจีน จำนวน 3 คน ได้เข้าร่วมอภิปราย ณ การประชุมโต๊ะกลมทางเศรษฐกิจแห่งประเทศจีน ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดโดยสำนักข่าวซินหัว เพื่อไขความกระจ่างของภูมิทัศน์อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) แก่ผู้ชมทั่วโลก หลังจากภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวของจีนเจริญเติบโตจนชาติตะวันตกบางส่วนออกมาตั้งแง่เกี่ยวกับ "กำลังการผลิตล้นเกินจากจีน"คณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญข้างต้นได้แจกแจงว่าทำไมการตั้งแง่เช่นนั้นขาดแคลนหลักฐานอันเป็นรูปธรรม พร้อมอธิบายนัยสำคัญของยานยนต์พลังงานใหม่จากจีนที่มีต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนของโลก และเปิดเผยฐานรากทางการเมืองเบื้องหลังยุทธศาสตร์จำกัดควบคุมและมาตรการกีดกันทางการค้าของชาติตะวันตกบางส่วนกำลังการผลิตล้นเกินคือตรรกะวิบัติผู้ร่วมอภิปรายกล่าวว่าหากตรวจสอบความสัมพันธ์อุปทาน-อุปสงค์ หลักการแบ่งงานกันทำทั่วโลก และวิถีทางการพัฒนาในอนาคตอย่างละเอียดแล้วจะพบว่าวาทะ "กำลังการผลิตล้นเกิน" นั้นขัดแย้งกับหลักฐานข้อเท็จจริงและหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐานฮั่วฝูเผิง เจ้าหน้าที่คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ระบุว่ายอดจำหน่ายยานยนต์พลังงานใหม่ของจีน ช่วงปี 2023 รวมอยู่ที่ 9.49 ล้านคัน ซึ่งต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยอดการผลิต 9.59 ล้านคัน โดยการผลิตที่เกินดุลเล็กน้อยนี้ไม่ใช่กำลังการผลิตล้นเกิน แต่ส่งเสริมการแข่งขันและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการที่บรรดาบริษัทนวัตกรรมอัปเกรดเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ย่อมทำให้กำลังการผลิตที่ล้าสมัยทยอยหายตามธรรมดาและนำสู่ดุลยภาพเชิงพลวัต ดังนั้นการพินิจพิเคราะห์ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ผ่านมุมอุปทาน-อุปสงค์เพียงอย่างเดียวย่อมมิสอดคล้องกับหลักเศรษฐศาสตร์ผู้ร่วมอภิปรายชี้ว่ากรณีชาติตะวันตกบางส่วนแปะป้ายการเร่งส่งออกยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนเป็นหลักฐานของกำลังการผลิตล้นเกินนั้นไม่สมเหตุสมผลเหอไห่หลิน เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน เน้นย้ำว่ากำลังการผลิตที่สูงเกินความต้องการภายในประเทศเป็นปรากฏการณ์ทั่วไปในโลก เนื่องจากสะท้อนความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบและผลลัพธ์จากการแบ่งงานกันทำติงเหวยซุ่น เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ของจีน ยกตัวอย่างสหรัฐฯ ส่งออกชิปที่ผลิตในประเทศราวร้อยละ 80 ญี่ปุ่นส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในประเทศราวร้อยละ 50 เช่นเดียวกับเยอรมนีส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในประเทศเกือบร้อยละ 80 สวนทางกับจีนที่มุ่งตอบสนองความต้องการในประเทศเป็นหลัก และการส่งออกยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนคิดเป็นส่วนน้อยของการผลิตทั้งหมด โดยจีนผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ในปี 2023 ราว 9.59 ล้านคัน แต่ส่งออกเพียงร้อยละ 12 เท่านั้นฮั่วเสริมว่าผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ของจีนเป็นที่ต้องการอย่างมาก ท่ามกลางความพยายามสร้างความยั่งยืนของทั่วโลก โดยภาคอุตสาหกรรมอย่างยานยนต์พลังงานใหม่ พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ที่กำลังเจริญเติบโตของจีน มีความโดดเด่นเพิ่มขึ้นตามการทำงานเชิงรุกเพื่อการเปลี่ยนผ่านอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำของทั่วโลกผู้รับผลประโยชน์คือโลกทั้งใบผู้ร่วมอภิปรายกล่าวว่า ณ ห้วงยามที่โลกกำลังต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็วของชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกอย่างจีนย่อมมีนัยยะลึกซึ้งต่อการพัฒนาของโลกยานยนต์พลังงานใหม่ที่จีนผลิตถูกส่งออกสู่กว่า 180 ประเทศและภูมิภาค เช่น ฝรั่งเศส ไทย และอินโดนีเซีย ในปี 2023 สะท้อนกระแสนิยมจากผู้บริโภคทั่วโลก โดยติงกล่าวว่ายานยนต์พลังงานใหม่ที่จีนผลิตเป็นตัวเลือกอันคุ้มค่าของผู้คิดซื้อรถ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายของการขนส่งส่วนบุคคล และตอบสนองความต้องการแนวทางการขนส่งอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกฮั่วกล่าวว่าการแสวงหาการเติบโตอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของทั่วโลกนั้นต้องการการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูง ราคาย่อมเยา และมีความยั่งยืน ซึ่งจีนมีส่วนส่งเสริมผ่านการพัฒนายานยนต์พลังงานใหม่ โดยอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนเติบโตอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับการประกาศเป้าหมายคาร์บอนคู่ของจีนและการเร่งรัดสู่เศรษฐกิจสีเขียวของทั่วโลกนอกจากนั้นจีนดำเนินบทบาทตัวอย่างของการยกระดับการกำกับดูแลสภาพภูมิอากาศของโลก โดยชวีเฟิ่งเจี๋ย นักวิจัยจากสถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์มหภาค สังกัดคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ชี้ว่าจีนเกื้อหนุนการกำกับดูแลสภาพภูมิอากาศของโลกและมอบประสบการณ์เชิงปฏิบัติแก่นานาประเทศผู้ร่วมอภิปรายกล่าวว่าการที่ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนผงาดขึ้นมาอาจกระตุ้นการอัปเกรดของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก สร้างสรรค์ระบบนิเวศอันประกอบด้วยความร่วมมือและการแข่งขันฮั่วตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของโลกเลือกจัดตั้งโรงงานผลิตและสถานวิจัยในจีน ซึ่งกลยุทธ์การดำเนินการเช่นนี้เป็นข้อได้เปรียบของการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่และกาเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ชวีเสริมว่าบรรดาผู้ผลิตยานยนต์ของจีนได้บ่มเพาะสภาพแวดล้อมการแข่งขันอันแข็งแกร่งผ่านการแข่งขันและความร่วมมือกับกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์จากต่างชาติ เช่น เทสลา (Tesla) ที่เป็นตัวอย่างการแข่งขันอันดีในหมู่ผู้ผลิตยานยนต์ภายในประเทศและจากต่างชาติการขยายตัวอันรวดเร็วของอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ยังก่อให้เกิดความคาดหวังการจ้างงานเพิ่มขึ้นและภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เติบโตเร็วขึ้นตามไปด้วย ทำให้อุตสาหกรรมพลังงานใหม่ที่เป็นอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงยุทธศาสตร์มีแนวโน้มเป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั่วโลกลัทธิกีดกันทางการค้าคืออันตรายที่แท้จริงช่วงไม่กี่ปีมานี้ โลกาภิวัฒน์และลัทธิพหุพาคีทางการค้าประสบกับคลื่นลมต้านทาน เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวและการเมืองภายในของบางประเทศ ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของลัทธิกีดกันทางการค้าที่เป็นดังอสูรกายเข้าทำลายเศรษฐกิจโลก ซึ่งเหล่านักวิจารณ์ชี้ว่านโยบายลักษณะดังกล่าวสวนทางกับหลักการตลาดเปิดกว้างและความร่วมมือระหว่างประเทศฮั่วกล่าวว่าลักทธิกีดกันทางการค้ามิสามารถแก้ไขปัญหาทางอุตสาหกรรมภายใน ทั้งขัดขวางการดำเนินงานที่มีเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ทั่วโลก โดยผลเสียจากนโยบายกีดกันทางการค้านั้นมากกว่าเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ยังไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านแบบปล่อยคาร์บอนต่ำของโลก เพราะลัทธิกีดกันทางการค้าอาจฉุดรั้งความก้าวหน้าของการพัฒนาที่ยั่งยืนทั่วโลกติงสำทับว่าลัทธิกีดกันทางการค้าส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนผ่านอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและบ่อนทำลายความพยายามร่วมกันของทั่วโลกในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ โดยเขาเปรียบเทียบภาพมือข้างหนึ่งโบกป้ายการพัฒนาอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่มืออีกข้างแกว่งป้ายชวนเข้าร่วมกลุ่มกีดกันทางการค้า ซึ่งนี่เป็นความย้อนแย้งฉบับคลาสสิก หรือจะเรียกว่า "ลัทธิสองมาตรฐาน" ก็ได้ แต่ท้ายที่สุดคือทำร้ายเป้าหมายการพัฒนาอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำ รวมถึงเป้าหมายสภาพภูมิอากาศของโลกชวีเสริมว่าทัศนคติเชิงวิพากษ์ของแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลังลัทธิกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งถูกใช้เป็นเครื่องมือวิพากษ์วิจารณ์ระบบเศรษฐกิจและรูปแบบการพัฒนาของจีน สร้างกระแสคัดค้านทางอุดมการณ์ และลดทอนอิทธิพลและชื่อเสียงของจีนในประชาคมระหว่างประเทศ
(แฟ้มภาพซินหัว : หุ่นยนต์ทำงานที่โรงงานเชื่อมของโวยาห์ แบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าของจีน ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน วันที่ 1 เม.ย. 2024)