หาก “แพทองธาร” ลาออก ใครมีสิทธิเข้าชิงนายกฯ?

หาก “แพทองธาร” ลาออก ใครมีสิทธิเข้าชิงนายกฯ?
ภายใต้กระแสกดดันทางการเมืองที่ถาโถม หากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ตัดสินใจก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สิ่งที่จะตามมาทันทีคือกระบวนการสรรหาผู้นำคนใหม่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งกำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้มีอำนาจเสนอชื่อและลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีจาก “บัญชีแคนดิเดต” ที่พรรคการเมืองเสนอไว้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง
พรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่า 25 คน ขณะที่ผู้ถูกเสนอชื่อจะต้องได้รับเสียงรับรองจาก ส.ส. ไม่น้อยกว่า 50 คน หรือหนึ่งในสิบของสภาทั้งหมด
4 รายชื่อที่เข้าเกณฑ์เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี
จากบัญชีรายชื่อที่ยังมีผลอยู่ในปัจจุบัน พบว่ามี 4 บุคคลที่มีโอกาสถูกเสนอชื่อโดยชอบตามกฎหมาย ได้แก่
- นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
- นายชัยเกษม นิติสิริ พรรคเพื่อไทย
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ
- นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค พรรครวมไทยสร้างชาติ
แม้ในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์จะมีชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ตามลำดับ แต่ทั้งสองพรรคมีจำนวน สส. ไม่ถึง 25 คน จึงไม่สามารถเสนอชื่อบุคคลเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการได้
ขั้นตอนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
เมื่อเกิดการว่างลงของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎรจะต้องจัดประชุมเพื่อเลือกผู้นำคนใหม่ โดยจะมีการเสนอชื่อจากบัญชีเดิม และผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมด (ไม่น้อยกว่า 251 เสียง จาก 500) จะได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี
เสียงสนับสนุนจึงเป็นปัจจัยชี้ขาด ซึ่งจะนำไปสู่การเจรจาระหว่างพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งสมดุลอำนาจใหม่ในสภา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
