EU สอบสวน Apple, Google, Meta ละเมิดกฎหมายดิจิทัล
หน่วยงานกำกับดูแลการต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป หรือ EU antitrust regulators เปิดการสอบสวนครั้งแรกภายใต้กฎหมาย Digital Markets Act ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ป้องกันการผูกขาดตลาดดิจิทัล โดยประกาศเริ่มสอบสวน 3 บริษัทบิ๊กเทคใหญ่ Apple, Alphabet บริษัทแม่ของ Google และ Meta เพื่อหาว่า 3 บริษัทนี้ ละเมิดกฎหมายหรือไม่
โดยหน่วยงานจะทำการสอบสวน Alphabet บริษัทแม่ของ Google ในเรื่องของการบังคับทิศทางของผู้ใช้งานบน Google Play ซึ่งหมายถึงการบังคับให้ผู้ใช้งาน ต้องไปยังบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นของบริษัทนั้น ๆ แทนที่จะให้ทางเลือกอื่น ๆ และเรื่องของการให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทตัวเองเหนือคู่แข่งในการนำเสนอผลการค้นหาบน Google
ในขณะที่ Apple โดนสอบเรื่องของการบังคับทิศทางของผู้ใช้งานบน App Store และเรื่องของการออกแบบหน้าจอบน Safari ที่อาจจะยังให้ข้อมูลกับผู้ใช้งานได้ไม่ดีพอ ส่วน Meta โดนเรื่องของประเด็นโมเดลการจ่ายเงินค่าสมาชิก เพื่อแลกกับไม่แสดงโฆษณา ว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
นอกจากนี้ ทางหน่วยงานยังได้เริ่มขั้นตอนการสอบสวน ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างค่าธรรมเนียมใหม่ของบริษัท Apple ที่เรียกเก็บกับนักพัฒนาและการกีดกันช่องทางชำระเงินภายนอก และยังมีการตรวจสอบที่เชื่อมโยงไปถึงบริษัท Amazon ในเรื่องของแนวทางปฏิบัติ ในการจัดอันดับตลาดของตัวเอง ว่าให้ความเป็นธรรมกับสินค้าแบรนด์อื่น ที่ไม่ใช่ของบริษัทตัวเองหรือไม่
สำหรับกฏหมาย Digital Markets Act นี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเป็นกฎหมายที่กำหนดให้บริการต่าง ๆ เช่น เครื่องมือค้นหา โซเชียลเน็ตเวิร์ก และแอปแชตที่ธุรกิจอื่นใช้ ปฏิบัติตามคำแนะนำ เพื่อให้แน่ใจว่าคู่แข่งมีความเท่าเทียมกันและให้ทางเลือกแก่ผู้ใช้งานมากขึ้น
การละเมิดกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ ถูกปรับเป็นมูลค่ากว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าการซื้อขายประจำปีของบริษัท ทั้งนี้ ทั้ง 3 บริษัทได้ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นการสอบสวนที่เกิดขึ้น โดยโฆษกของ Meta กล่าวว่า บริษัทกำลังพยายามที่จะปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว ในส่วนของ Google กล่าวว่าบริษัทได้มการเปลี่ยนแปลงเรื่องของกฎการบริการที่สำคัญ และทาง Apple กล่าวว่ามั่นใจว่าแผนการปฏิบัติงานของตน สอดคล้องกับกฎหมาย Digital Markets Act
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ Apple พึ่งถูกคณะกรรมาธิการยุโรปสั่งปรับเป็นเงินมูลค่า 1,840 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 7 หมื่นล้านบาท จากกรณีละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด (Antitrust law) ของสหภาพยุโรป
มูลค่าของค่าปรับนี้ คิดเป็นเกือบร้อยละ 0.5 ของมูลค่าการซื้อขายทั่วโลกของบริษัท Apple ซึ่งการตัดสินสั่งปรับครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้สอบสวนคำร้องของ สปอติฟาย (Spotify) บริการสตรีมมิ่งเพลงชื่อดัง ที่ได้ยื่นร้องเรียนว่า Apple ซึ่งมีบริการสตรีมมิ่งเพลง แอปเปิล มิวสิค (Apple Music) กีดกันบริการของตนและคู่แข่งเจ้าอื่น ๆ
ทั้งนี้ Apple ประกาศว่าจะขอยื่นอุทธรณ์คำตัดสินจากศาลยุติธรรมทั่วไปแห่งสหภาพยุโรป (General Court) ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาหลายปี กว่าที่จะได้คำตัดสิน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นสัญญาณว่า EU เอาจริง ที่จะทำให้บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ปกป้องและรักษาสิทธิ์การใช้งานของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ข้อมูลจาก reutersconnect, tnnthailand