13 หุ้นน่าสะสม ราคาลงมาจนต่ำใกล้ช่วง COVID (Wave 2)
ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS มองตลาดหุ้นยังอยู่ในภาวะความกังวลประเด็นการติด COVID-19 ระลอกที่ 3 มีสายพันธุ์อังกฤษผสม น่าจะสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นในระยะสั้น แรงกดดัน COVID-19 ระลอกที่ 3 ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะยังเพิ่มขึ้นแรงในช่วงหลังสงกรานต์หรือไม่? ถ้าทำได้ดีฝ่ายวิจัยฯ เชื่อว่าการปรับฐานครั้งนี้อาจจะไม่ลึกเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา ด้วยเหตุผลสนับสนุนดังนี้
ตลาดหุ้นอาจไม่ปรับฐานแรงสะท้อนได้ จากบทเรียนในอดีต หากเปรียบเทียบกับการติดเชื้อระลอก 2 วันที่ 21 ธ.ค.63 หลังจากนั้นตลาดหุ้นไทยปรับฐานแรงเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น แล้วตลาดค่อยๆ ฟื้น เนื่องจากการควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อ ทำได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ปัจจุบันเริ่มมีการทยอยฉีดวัคซีนมากขึ้นตามลำดับ
การแพร่ระบาด COVID-19 ในอังกฤษ (สายพันธ์อังกฤษ) แม้จะเร่งตัวเร็ว 4.5 เท่าต่อเดือน แต่ตลาดหุ้นกลับไม่ตอบสนองเชิงลบ และทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น (ตามหัวข้อด้านบน)
สถาบันต่างชาติ ยังมีมุมมองเศรษฐกิจไทยดูดีขึ้นในระยะกลางถึงยาวดีขึ้น โดยล่าสุด IMF ปรับเพิ่มการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2565จาก 4.6% เป็น 5.6% ขณะเดียวกันต่างชาติสลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย 2.7 พันล้านบาทในวานนี้หากแรงซื้อ ของต่างชาติมีมาต่อเนื่องน่าจะช่วยพยุง SET Index ได้ ดังนั้นภาพรวมตลาดฯ น่าจะถูกกดดันไม่มากเท่าอดีต และยังสามารถคาดหวังการฟื้นตัวในระยะถัดไปอยู่
กลยุทธ์แนะนำสะสมหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งราคาถูกกดดันจนอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือต่ำกว่าช่วงที่เกิด COVID-19 (Wave 2) โดยผ่านเงื่อนไขคัดกรองดังนี้
1. ราคาปรับฐานลงมาจากจุดสูงสุดในช่วง 4 เดือน (Wave 2 – Wave 3) < -5% แสดงให้เห็นว่าราคาตอบรับปัจจัยลบมาพอสมควร
2. ปัจจุบันราคาหุ้นมีผลตอบแทน < 5% ในจุดต่ำสุด ของการเกิด COVID-19 (Wave 2) แสดงให้เห็นว่า Downside ค่อนข้างจะจำกัด
3. เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มี Upside > 10% และฝ่ายวิจัยฯแนะนำ “ซื้อ ”
ได้ผลลัพธ์ 13 บริษัท ที่ราคาปรับฐานลงมาจนน่าสะสมเพื่อหวังผลระยะกลางถึงยาวดังนี้
Top pick วันนี้เลือก 1 หุ้น ในตาราง คือ M และหุ้นที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จำกัด และอาจจะได้ประโยชน์ในบางมุม อาทิ BDMS มีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก, BLA ได้อานิสงค์จากการทำประกัน COVID-19