รีเซต

TPIPL ดีมานด์ซีเมนต์โต10% วางเป้าอีบิทด้าแตะ 2 พันล้าน

TPIPL ดีมานด์ซีเมนต์โต10% วางเป้าอีบิทด้าแตะ 2 พันล้าน
ทันหุ้น
29 มีนาคม 2565 ( 16:58 )
385
TPIPL ดีมานด์ซีเมนต์โต10% วางเป้าอีบิทด้าแตะ 2 พันล้าน

ข่าววันนี้ TPIPL ชี้ดีมานด์ปูนซีเมนต์ปี 2565 ขยายตัว 5-10% รับเปิดเมือง ไซต์งานเดินหน้าก่อสร้างได้ ขณะที่ภาครัฐ-เอกชน เดินหน้าลงทุนต่อ คาดราคาขายอาจปรับเพิ่มเป็น 500 บาทต่อตัน จากปัจจุบันที่ราว 300 บาทต่อตัน หนุนรายได้-กำไรเพิ่ม ด้านต้นทุนพลังงานลดฮวบจากการใช้ RDF ทดแทนถ่านหิน พร้อมวางเป้า EBITDA เพิ่มขึ้นแตะ 2 พันล้านบาท และเพิ่มเป็น 3 พันล้านบาท ในปีถัดไป

 

นายประเสริฐ  อิทธิเมฆินทร์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจและอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์มีแนวโน้มความต้องการที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน หนุนให้ปริมาณการขายซีเมนต์เพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% เป็นผลมาจากการเปิดเมืองทำให้ไซต์งานก่อสร้างดำเนินการได้ตามปกติ ประกอบกับภาครัฐมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คาดว่าในปีนี้ภาครัฐจะมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่อเนื่อง รวมถึงภาคเอกชนเริ่มมีสัญญาณการกลับมาทยอยลงทุนโครงการที่ชะลอไปในช่วงปีก่อนได้มากขึ้น

 

*เล็งปรับขึ้นราคาขาย

ในขณะเดียวกันด้วยราคาถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ทำให้มีผู้ผลิตซีเมนต์มีความจำเป็นที่จะต้องปรับราคาขายเพิ่มขึ้นตามเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทก็ได้มีการปรับราคาขายซีเมนต์เพิ่มเป็น 300 บาทต่อตัน และด้วยแนวโน้มราคาถ่านหินจะไต่ระดับสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทำให้มองว่าราคาขายซีเมนต์อาจเพิ่มไปถึง 500 บาทต่อตัน สะท้อนต่อรายได้และกำไรที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม

 

ส่วนธุรกิจเม็ดพลาสติก Low-Density Polyethylene (LPDE) และ Ethylene Vinyl Acetate (EVA) นั้น ในปี 2565 มองว่ายังคงมีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะปริมาณการขายเม็ดพลาสติกส่วนใหญ่ที่จำหน่ายจะเป็นเม็ดพลาสติกแบบ EVA ซึ่งเป็นชนิดพิเศษ (Specialty Grade) ทำให้บริษัทสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่ค่อนข้างสูง รวมถึงยังได้รับประโยชน์ส่วนต่างจากค่าสเปรด (Spread) เมื่อเทียบกับต้นทุนแอทเทอร์รีนค่อนข้างสูงกว่า ประกอบกับด้วยสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน ทำให้ความต้องในการใช้การเม็ดพลาสติกและวัสดุก่อสร้างเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากปัจจัยดังกล่าวอีกด้วย

 

พร้อมกันนี้ เม็ดพลาสติก EVA ยังเป็นวัตถุดิบที่นำมาในกับแผนโซลาร์ฟิล์ม เพราะฉะนั้นจากแนวโน้มเทรนด์พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ทำให้มีความต้องการใช้แผ่นฟิล์มโซลาร์สูง โดยบริษัทมีปริมาณการขาย EVA อยู่ที่ 90% ของการขายรวม ขณะที่ต้นทุนในการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการลงทุนเพื่อปรับลดปริมาณการใช้ความร้อน โดยลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานขยะเชื้อเพลิง (RDF) มาใช้ทดแทนพลังงานที่ได้จากถ่านหิน (Coal) เพื่อผลิตปูนซีเมนต์แล้วประมาณ 3 ไลน์การผลิต จากทั้งหมดจำนวน 4 ไลน์การผลิต และมีเป้าหมายที่จะทดแทนการใช้ถ่านหินประมาณ 30-40%

 

*โค้งแรกโดดเด่น

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2565 คาดเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากการปรับขึ้นราคาขายปูนซีเมนต์ ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีต้นทุนที่ต่ำลงจากการปรับลดต้นทุนทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตและต้นทุนทางพลังงาน ขณะที่ธุรกิจพลังงาน ภายใต้การบริหารของบริษัทลูก บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP แม้ว่าจะมีโรงไฟฟ้าที่สิ้นสุดรายได้จากอัตราส่วนเพิ่มค่ารับซื้อไฟฟ้า (ค่าแอดเดอร์ : Adder) ในปี 2565 ทั้งสิ้น 2 โรง รวมกำลังการผลิตรวม 73 เมกะวัตต์

 

โดยจำนวน 18 เมกะวัตต์ หมดในช่วงเดือนมกราคม และ 55 เมกะวัตต์ หมดในเดือนสิงหาคม 2565 แต่ได้รับอานิสงส์จากการปรับสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ หรือค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า FT) ขึ้น 0.16 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้บริษัทมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นสามารถมาทดแทน Adder ที่หมดลงได้

 

อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Additional EBITDA) เพิ่มเติมในปีนี้รวมประมาณ 1,534.57 ล้านบาท ตลอดจนจากการทำ Cost Saving ของธุรกิจหลักทำให้คาดว่าภาพรวม EBITDA ในปี 2565 จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาทในปี 2566

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง