ฟินแลนด์ประกาศ 'ภาวะฉุกเฉินโควิด-19' หลังสถานการณ์เลวร้ายลง

เฮลซิงกิ, 2 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (1 มี.ค.) รัฐบาลฟินแลนด์ประกาศภาวะฉุกเฉินเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในประเทศเลวร้ายลง โดยสำนักนายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ระบุว่าภาวะฉุกเฉินนี้มีผลบังคับใช้ทันที

ซานนา มาริน นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ แถลงข่าวว่าการตัดสินใจครั้งนี้อิงจากมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติอำนาจภาวะฉุกเฉิน ซึ่งระบุว่า "การแพร่ระบาดเป็นวงกว้างของโรคระบาดร้ายแรง ซึ่งส่งผลกระทบเทียบเท่ากับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ ตรงกับคำจำกัดความของภาวะฉุกเฉิน"

อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัตินี้จะไม่ถูกนำมาใช้ในครั้งนี้ โดยรัฐบาลฟินแลนด์ได้เสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภาเพื่อสามารถออกคำสั่งให้ร้านอาหารในบางพื้นที่ของประเทศปิดให้บริการเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. และจะมีการกำหนดพื้นที่ภายใต้คำสั่งดังกล่าวหลังจากรัฐสภาอนุมัติกฎหมายแล้ว

มารินระบุว่ากฎหมายข้างต้นที่ถูกใช้เพื่อสั่งปิดร้านอาหารคล้ายคลึงกับกฎหมายที่ถูกใช้ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2020 แต่มีข้อยกเว้นกับโรงอาหารในสถานที่ทำงานและร้านอาหารที่ไม่เปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไป โดยร้านอาหารสามารถให้บริการส่งถึงบ้านได้แต่ไม่สามารถใช้พื้นที่ระเบียงกลางแจ้งในการจัดเลี้ยง โดยมีแผนจ่ายเงินชดเชยแก่เจ้าของร้านอาหารด้วย

นอกจากนั้นมารินกล่าวว่าการนำข้อจำกัดการเดินทางมาใช้อาจเป็นสิ่งจำเป็น โดยจะพิจารณาว่าสถานการณ์แพร่ระบาดเลวร้ายลงอีกหรือไม่

เมื่อวันจันทร์ (1 มี.ค.) สถาบันเพื่อสุขภาพและสังคมสงเคราะห์ของฟินแลนด์ ระบุว่าอัตราการป่วยโรคโควิด-19 ระยะ 2 สัปดาห์ของฟินแลนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 128 รายต่อผู้อยู่อาศัย 100,000 คน โดยที่เขตอูซิมา ซึ่งรวมถึงกรุงเฮลซิงกิ มีอัตราดังกล่าวอยู่ที่ 254 รายต่อผู้อยู่อาศัย 100,000 คน

ทั้งนี้ ฟินแลนด์ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 392 ราย ในวันจันทร์ (1 มี.ค.) ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 58,064 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 8 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 750 ราย