รัฐบาลเกาหลีใต้เอาจริง เร่งดันส่งออก "อาหารเกาหลี" โกยรายได้ทั่วโลก ปักหมุด"ไทย" ประตู่สู่อาเซียน

"อาหารเกาหลี" ขายดีในไทยและทั่วโลก ฮิตตามกระแส K-Culture รัฐบาลเกาหลีใต้เร่งส่งเสริม หวังดันขึ้นเสาหลัก "ส่งออก"
อาหารเกาหลีฟีเวอร์ อาหารเกาหลีขายดีในเมืองไทย โตแกร่งมาแรงที่สุดในอาเซียน นอกจากความอร่อยที่หลายคนติดใจ ต้องยอมรับว่ามาจากอิทธิพลของละครซีรีส์ต่างที่เราดูกันด้วย เรียกว่าได้เป็นมาจาก "Soft Power" จาก K Culture ของจริง และไม่ใช่แค่เมืองไทย และไปไกลระดับโลก
คนไทยชอบกินอาหารเกาหลี ตลาดอาหารเกาหลีใต้ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากทางสำนักงานส่งเสริมการค้า และการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย (Korea Trade-Investment Promotion Agency หรือ KOTRA Bangkok ระบุว่ากลุ่มผู้บริโภคหลักของอาหารเกาหลีในไทย คือ วัยรุ่น วัยทำงาน และครอบครัวในเมืองใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าอาหารเกาหลีเป็นอาหารสุขภาพ ทันสมัย และเชื่อมโยงกับกระแสวัฒนธรรมโลก
สินค้า K-Food ที่ได้รับความนิยม เติบโตสูงสุดในไทยและอาเซียน 5 หมวดหลัก ได้แก่
1.บะหมี่และอาหารพร้อมรับประทาน
2.ซอสและเครื่องปรุง เช่น โคชูจังและซอสต๊อกบกกี
3.เครื่องดื่มสุขภาพ เช่น คอลลาเจน โสม และโปรไบโอติก
4.ขนมและของหวานเกาหลี
5.อาหารหมัก เช่น กิมจิ
ส่วนร้านอาหารที่เป็นแบรนด์เกาหลีโดยตรงก็ได้รับการต้อนรับที่ดีจากกระแส K-Culture ด้วยเช่นกัน ทำให้วันนี้เราจะเห็นว่ามีแบรนด์ ร้านอาหารเกาหลีรุกตลาดขยายสาขาสู่ประเทศไทยไม่ขาดสาย ส่วนตัวของร้านอาหารไทยก็มีการเพิ่มเมนูอาหารเกาหลีเพื่อดึงดูดลูกค้าด้วยเช่นกัน
ซึ่งวันนี้ทางการของเกาหลีใต้ได้เดินหน้าส่งเสริม โปรโมต และบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยนายคิม ยงซอง ผู้อำนวยการสำนักงาน KOTRA กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นองค์กรรัฐภายใต้กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้ เปิดเผย อาหารเกาหลีใต้ หรือ K-Food เป็นอีกหนึ่งเสาหลัก อีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะต่อเติมให้ Soft Power ของเกาหลีใต้ทรงอิทธิพลในตลาดโลก
เป้าหมายสำคัญของ KOTRA จะผลักดันการเติบโตของ K-Food โดยรัฐบาลเกาหลีได้ตั้งเป้าจะต้องเพิ่มมูลค่าการส่งออก K-Food ให้แตะกว่า 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2573 ผ่านการเร่งกำลังโปรโมต K-Food อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเอกชนในประเทศ ทั้งผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีในธุรกิจอาหารออกสู่เวทีการค้าต่างๆ โดยเฉพาะอาเซียน ซึ่งปัจจุบันนี้มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ไทยเปรียบเป็น “ประตู” หรือ Gate Way สำคัญในการขยายตลาดอาหารเกาหลีใต้สู่อาเซียน
เพราะไทยมีจุดยุทธศาสตร์สำคัญ มีการจัดงานใหญ่ที่ส่งเสริมการค้าในทุกๆปี เช่น งาน “THAIFEX” ทุกปี ซึ่งมีผู้ประกอบการฝั่งซื้อ-ขายมีพบปะกันจำนวนมาก สร้างโอกาสทางธุรกิจมหาศาล โดยที่ผ่านมาผู้ประกอบการอาหารเกาหลีใต้ 150 ราย มาร่วมงานดังกล่าวด้วย รวมถึงการรุกจัดงาน “SEOUL FOOD” ผ่านสำนักงานของ KOTRA ทั้ง 131 แห่ง ใน 85 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการจัดงานมีเพียงปีละครั้งในประเทศต่างๆ เช่น ยุโรป ญี่ปุ่นฯ
ส่วนในประเทศไทยแม้จะเพิ่งมีการจัดงานครั้งแรกในปีที่แล้ว 2567 แต่ก็สร้างมูลค่าการค้าและการเจรจาธุรกิจราว 250 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8,196 ล้านบาท จากผู้ประกอบการอาหารเกาหลีใต้เข้าร่วมงาน 123 ราย มีผู้ซื้อ-ขายจาก 13 ประเทศ รวม 332 ราย จนนำไปสู่การเดินหน้าจัดงานอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2568
นายคิม ยงซอง กล่าวว่า ในเกาหลีใต้มีผู้ประกอบการร้านอาหารกว่า 6 แสนราย นโยบายของรัฐบาลคือ ต้องการส่งเสริมให้ K-Food เติบโต และบทบาทของ KOTRA คือ การช่วยเป็นที่ปรึกษาทั้งด้านกฎหมายของแต่ละประเทศ จัดงานแสดงสินค้าเพื่อเพิ่มโอกาสเจรจาการค้า จับคู่พันธมิตรทางธุรกิจในท้องถิ่นหรือ B2B ขณะที่อาหารเกาหลีใต้ยอดฮิต เช่น ไก่เผ็ดซอสเกาหลี ไก่ทอด ปิ้งย่าง ฯลฯ ซึ่งประเทศไทยยังเป็นตลาดที่ผู้บริโภคชอบอาหารเกาหลีใต้หรือ K-Food มากสุดแห่งหนึ่งของโลก
เป้าหมายสำหรับ K-Food คือ การเป็นสัญลักษณ์ของอาหารคุณภาพ สุขภาพ และมีความคิดสร้างสรรค์ ผ่านการขับเคลื่อนด้วย 4 กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารหลัก
1. Functional Wellness Foods & Beauty Supplements
กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม เช่น เยลลี่คอลลาเจน เครื่องดื่มโสม เครื่องดื่มโปรตีน และผลิตภัณฑ์หมักสมุนไพร
2. Smart Convenience Meals
อาหารสะดวกพร้อมรับประทานระดับพรีเมียม เช่น เกี๊ยวเกาหลี ผัดวุ้นเส้นเกาหลี (Japchae) และข้าวผัดหอยเป๋าฮื้อ ที่ใช้เทคโนโลยีรีทอร์ตและระบบโซ่ความเย็นขั้นสูง
3. Plant-Based & Sustainable K-Food
ผลิตภัณฑ์จากพืชและบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน เช่น เกี๊ยววีแกน กาแฟหมักจากสโคบี้ และอาหารดั้งเดิมในรูปแบบทันสมัย
4. Modernized Korean Traditions
การนำอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิม เช่น ต๊อกบกกี น้ำมันงา น้ำเชื่อมขิง มาพัฒนาในดีไซน์และรสชาติร่วมสมัย
"รัฐบาลเกาหลีใต้" เร่งส่งเสริมการส่งออกสินค้า "K Culture" ดันขึ้นเสาหลักเศรษฐกิจ
อาหารเกาหลีฟีเวอร์ ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่มาจากความตั้งใจของรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารในประเทศผ่าน K-Culture ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่อาหาร แต่ยังมีสินค้าอีกมากมาย ที่กำลังบูมไปทั่วโลก
รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมประกาศแผนยุทธศาสตร์รอบด้านในการผลักดันการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคของเกาหลีใต้ภายในปีนี้ หลังจากที่ผลิตภัณฑ์อาหาร K Food ความงาม K Beuty และแฟชั่นของเกาหลีใต้กำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นทั่วโลก
ล่าสุด กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และทรัพยากร ได้มีการจัดประชุมครั้งสำคัญ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เพื่อหารือการส่งเสริมการส่งออกสินค้าในประเทศ ให้สอดรับกับกระแส K Culture หรือกระแสความนิยมวัฒนธรรมเกาหลีที่กำลังมาแรงทั่วโลก โดยเร่งหามาตรการส่งเสริมการส่งออกสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค โดยการประชุมครั้งนี้ ประกอบไปด้วยตัวแทนของรัฐบาล โดย "ยอ ฮัน-กู" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า ร่วมกับบรรดาบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของเกาหลีใต้ อาทิ Musinsa แพลตฟอร์มแฟชั่นออนไลน์, Coupang Inc. ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ และ CJ Olive Young ผู้ค้าปลีกสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามชั้นนำ
รัฐมนตรีกระทรวงการค้ากล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวคาดว่าจะประกอบด้วยมาตรการต่าง ๆ เช่น การช่วยสินค้าเกาหลีเจาะตลาดโลกโดยใช้กลยุทธ์การส่งเสริมสินค้าระดับพรีเมียม การแก้ไขปัญหาด้านการส่งออก (การขนส่งและการรับรองมาตรฐาน) และการสร้างห้างสรรพสินค้าออนไลน์ระดับโลกสำหรับจำหน่ายสินค้าที่ผลิตในเกาหลี
โดยเน้นย้ำว่าแพลตฟอร์มการจัดจำหน่ายสินค้าของเกาหลีใต้จะเป็นสะพานสำคัญที่เชื่อมโยงผู้บริโภคต่างประเทศกับสินค้าเกาหลี และมั่นใจว่าสินค้าอุปโภคบริโภคจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นกลไกขับเคลื่อนการส่งออกของประเทศได้ จากเดิมที่เกาหลีใต้ได้มุ่งเน้นการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ รถยนต์ และสินค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
