หมอแชร์คลิปลูกชาย 4 ขวบ “ติดโควิด” ไอหนัก-เพ้อไม่รอด เตือนพ่อแม่จริงจังป้องกันไวรัส (คลิป)
หมอแชร์คลิปลูกชาย 4 ขวบ “ติดโควิด” ไอหนัก-เพ้อไม่รอด เตือนพ่อแม่จริงจังป้องกันไวรัส
หมอแชร์คลิปลูกชาย - วันที่ 24 เม.ย. เดลีเมล์ รายงานว่า แพทย์หญิงแอนนา ซิมเมอร์แมน จากรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เปิดเผยเรื่องราวการเผชิญหน้ากับ โรคโควิด-19 หลังจาก ด.ช.ลินคอล์น ลูกชายวัย 4 ขวบติดไวรัสชนิดนี้
ทั้งที่ครอบครัวแยกกักตัวอยู่ห่างจากคนในชุมชน รวมถึงที่สาธารณะก่อนทางการท้องถิ่นจะประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ เลยต้องการบอกเล่าประสบการณ์ พร้อมเผยแพร่คลิปวิดีโอของลูกน้อยช่วงป่วยหนัก เพื่อเป็นอุทาหรณ์และย้ำเตือนให้พ่อแม่ตระหนักถึงภัยอันตรายของโควิด-19
พญ.ซิมเมอร์แมนเปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ในจีน ตนก็เริ่มติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเริ่มกังวลมากขึ้นหลังอิตาลีประสบวิกฤตการแพร่ระบาดรุนแรง ช่วงนั้นยังไม่มีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในสหรัฐ แต่ตนให้ลูกชายหยุดเรียนว่ายน้ำ และทำกิจกรรมพิเศษ เพราะเชื่อว่าจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ
โดยลูกชายไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลจนถึงวันที่ 12 มี.ค. 4 วันก่อนทางการรัฐโคโลราโดจะประกาศให้ปิดสถานศึกษาทั้งหมดเป็นการชั่วคราว
แม้ครอบครัวจะเตรียมพร้อมรับมือและกักตัวอยู่ในบ้านก่อนที่ทางการจะออกนโยบายและข้อบังคับต่างๆ แต่ลินคอล์นกลับมีอาการป่วย ไอ จาม และน้ำมูกไหล ในวันที่ 21 มี.ค. ซึ่งตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. พญ.ซิมเมอร์แมนออกจากบ้านเพียง 1 ครั้งเพื่อซื้อของกินของใช้ ส่วนสามีออกจากบ้าน 1 ครั้งเช่นกันเพื่อไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
วันที่ 27 เม.ย. ลินคอล์นมีไข้สูง 40 องศาเซลเซียส วันที่ 28 เม.ย. ครอบครัวพาไปโรงพยาบาล และพบว่าป่วยเป็นโรคปอดบวม วันที่ 30 เม.ย. อาการของลินคอล์นหนักขึ้น ต้องแอดมิตเข้าโรงพยาบาลและใช้เครื่องผลิตออกซิเจน โดยช่วงเช้าที่แอดมิตลินคอล์นต้องการออกซิเตนที่ปริมาณ 2 ลิตร แต่พอตกกลางคืนอาการทรุดลง และต้องการออกซิเจนเพิ่มเป็น 4 ลิตร
วันที่ 31 มี.ค. ลินคอล์นต้องการออกซิเจนมากขึ้นเป็น 6 ลิตร และแพทย์ต้องเพิ่มเป็นสูงสุดที่ 9 ลิตรในเวลาต่อมา ลินคอล์นเริ่มหายใจไม่เป็นจังหวะ มีภาวะหายใจจมูกบาน หายใจเร็วกว่าปกติ รวมถึงต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าอก กล้ามเนื้อลำตัวท่อนบน และคอเพื่อช่วยในการหายใจ
พญ.ซิมเมอร์แมนกล่าวว่า ลูกชายบอกกับตนด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “แม่จ๋า มันไม่ช่วยอะไรหรอก ผมคงไม่ได้กลับบ้านแล้ว” ในวันเดียวกันผลเอ็กซ์เรย์ของคอล์นไม่เหมือนกับที่พบในผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 แต่คืนวันนั้นผลตรวจร่างกายกลับพบว่ามีเชื้อโควิด-19
แม้การรักษาจะผ่านไปอย่างยากลำบากซึ่งพญ.ซิมเมอร์แมนกล่าวว่าเป็นช่วงที่ทุกข์ทรมานเพราะต้องทนเห็นลูกชายป่วยหนักโดยไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก อย่างไรก็ตาม หลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 6 วัน ลินคอล์นอาการดีขึ้น แม้จะยังไออยู่บ้าง แต่ก็กินอาหารได้มากขึ้น ไม่ต้องพึ่งน้ำเกลือ และใช้เครื่องผลิตออกซิเจนที่ปริมาณน้อยกว่า 1 ลิตร
พญ.ซิมเมอร์กล่าวย้ำว่าขอให้ทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างจริงจัง “ได้โปรดอยู่อย่างปลอดภัย อยู่อย่างแข็งแรง รับมือกับไวรัสอย่างจริงจัง มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: