รีเซต

บัณฑิตใหม่ในอู่ฮั่นกว่าหมื่นคน ร่วมพิธีจบการศึกษา โนเว้นระยะห่าง โนหน้ากาก!

บัณฑิตใหม่ในอู่ฮั่นกว่าหมื่นคน ร่วมพิธีจบการศึกษา โนเว้นระยะห่าง โนหน้ากาก!
มติชน
15 มิถุนายน 2564 ( 16:05 )
68
บัณฑิตใหม่ในอู่ฮั่นกว่าหมื่นคน ร่วมพิธีจบการศึกษา โนเว้นระยะห่าง โนหน้ากาก!

 

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน สำนักข่าวเอเอฟพีได้เผยแพร่ภาพบรรยากาศพิธีจบการศึกษาของบัณฑิตใหม่จากมหาวิทยาลัยเซ็นทรัลไชนา นอร์มอล ยูนิเวอร์ซิตี (หรือมหาวิทยาลัยหัวจง นอร์มอล) ตั้งอยู่ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ของจีน จำนวนเกือบ 11,000 คน ที่มีนักศึกษาที่เรียนจบในปีที่แล้วอีกกว่า 2,000 คน เข้าร่วมพิธีจบการศึกษาในปีนี้ด้วย เนื่องจากไม่สามารถร่วมพิธีจบการศึกษาในปีที่แล้วได้ เพราะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีต้นตอการระบาดเริ่มแรกมาจากเมืองอู่ฮั่นแห่งนี้

 

 

 

โดยบัณฑิตใหม่ที่เข้าร่วมในพิธีจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเซ็นทรัลไชนา นอร์มอล ยูนิเวอร์ซิตี ครั้งนี้ ไม่ต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม และไม่ต้องสวมหน้ากากป้องกัน หลังจากเมืองอู่ฮั่นต่อสู้ควบคุมโรคโควิด-19 เอาไว้อยู่แล้ว

 

 

ทั้งนี้ไวรัสโควิด-19 พบระบาดเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงปลายปี 2019 ที่เมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์ ส่งผลให้ทางการจีนทำการปิดเมืองอู่ฮั่นที่มีประชากรราว 11 ล้านคนออกจากโลกภายนอกอย่างเด็ดขาดในทันที

 

 

มาตรการล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่นดำเนินมาอย่างเข้มข้นจนกระทั่งถึงเดือนเมษายนที่ทางการจีนเริ่มเปิดเมืองอู่ฮั่น หลังจากปิดเมืองอย่างเข้มงวดนาน 76 วันเต็ม แต่ยังให้มีการปิดสถานการศึกษาไว้ต่อไปอีก

 

 

รัฐบาลท้องถิ่นยังเข้มงวดกับการจัดพิธีจบการศึกษาของสถาบันการศึกษาต่างๆในปีที่แล้ว ที่ทำให้ส่วนใหญ่ต้องจัดพิธีจบการศึกษาทางออนไลน์แทน

 

 

ก่อนที่ทางการจีนจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดส่วนใหญ่ไว้ได้ และคลายการล็อกดาวน์เมืองลง โดยที่ยังคงรักษามาตรการเฝ้าระวังไว้อย่างสูง ที่รวมถึงการควบคุมอย่างเข้มงวดตามแนวชายแดน ใช้มาตรการกักตัว การกำหนดข้อปฏิบัติด้านสาธารณสุข ตลอดจนการเข้มงวดการเดินทางเคลื่อนย้ายในประเทศ

 

 

ในวันอังคาร(15 มิ.ย.)นี้ จีนมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 20 ราย โดยเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 18 ราย และอีก 2 รายเป็นการติดเชื้อในชุมชนที่มณฑลกวางตุ้ง

 

 

ขณะที่จีนมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แล้ว 4,636 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น และมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 91,471 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง