“โควิดเอริส” โอมิครอนพันธุ์ล่าสุด-ค้นพบเชื้อปรับตัวใหม่เกาะเซลล์ดีขึ้น

วันนี้ ( 11 ส.ค. 66 )ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เตือนโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย เอริส ในสหรัฐอเมริกา เป็นสายพันธุ์ที่แพร่หลายมากที่สุด แซงหน้า XBB.1.16 ที่แพร่ระบาดมากที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่ง เอริส เทพีแห่งความขัดแย้งและความไม่ลงรอยกันของกรีกได้ถูกนำมาใช้เรียกโอมิครอนสายพันธุ์ล่าสุด "EG.5.1" อย่างไม่เป็นทางการ และ มีต้นตระกูลมาจาก XBB.1.9.2

โดย องค์การอนามัยโลก แจ้งให้ทั่วโลกช่วยกันเฝ้าติดตามเอริส ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 คาดว่าจะกลายเป็นร่มใหญ่ของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่กำลังจะแพร่ระบาดในอนาคต ซึ่งพบว่าเอริสมีการแพร่กระจายได้มากกว่าสายพันธุ์อื่นที่ระบาดมาก่อนหน้า พบแพร่ระบาดเป็นร้อยละ 14.55 ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดในสหราชอาณาจักร โดยเพิ่มขึ้นในอัตรา ร้อยละ 20.51 ต่อสัปดาห์ ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ11.9 เป็นร้อยละ 17.3 ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม แซงหน้า XBB.1.16 ที่แพร่ระบาดมากที่สุดในสหรัฐฯ 

ขณะที่ นักวิทยาศาสตร์ ได้พบว่าโควิดมีเคล็ดลับใหม่ ช่วยให้ไวรัสยึดจับกับผิวเซลล์ได้ดีขึ้น เรียกว่า "Flip หรือ พลิก" กล่าวคือมีการกลายพันธุ์ ตำแหน่งติดกัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับกรดอะมิโน "ฟีนิลอะลานีน" และ "ลิวซีน" โดยตำแหน่งที่กลายพันธุ์เมื่อรวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสองเข้าด้วยกันจะทำให้ส่วนหนามของไวรัสจับกับผิวเซลล์ได้แน่นขึ้น ทำให้ไวรัสแทรกเข้าสู่เซลล์ได้ดียิ่งขึ้น วึ่งปรากฏการณ์ "พลิก" นี้ทำให้เกิด XBB สองสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น คือ XBB.1.5.70 มีต้นตระกูลมาจาก XBB.1.15 เเละ XBB.1.9.2.5.1.1.3 เกิดจากรุ่นพ่อ EG.5.1

อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นของ "เอริส" บ่งชี้ถึงการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่องของไวรัสโควิด-19 และยังคงเป็นภัยคุกคามต่อมวลมนุษยชาติ ประชาชนควรตระหนักและระมัดระวัง โดยไม่ต้องตื่นตระหนก

นอกจากนี้ การระบาดที่เกิดขึ้น ทำให้ รัฐบาลเกาหลีใต้ตัดสินใจชะลอแผนที่จะผ่อนปรนข้อจำกัดโควิด-19 ทั้งหมด และย้อนกลับไปใช้มาตรการที่ใช้ในระหว่างการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยพบโอมิครอน "EG.5.1" หรือ "Eris" เป็นสายพันธุ์หลักนำการระบาดอยู่ในขณะนี้ 

ข้อมูลจาก : ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ 

ภาพจาก :   ศูนย์จีโนมทางการแพทย์