โฆษก ศบค.ตอบชัด! 'แทรเวล บับเบิล' รอ ส.ค. ส่วน 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ผับบาร์ อาบอบนวด' รอนายกฯ

โฆษก ศบค.ตอบชัด! ‘แทรเวล บับเบิล’ รอ ส.ค. ส่วน ‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ผับบาร์ อาบอบนวด’ รอนายกฯ

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) กล่าวถึงการอนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ไปจนถึงประเด็นหารือและอนุมัติในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน ว่า หลังจากที่รัฐบาลจะอนุญาตให้กลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ เช่น นักธุรกิจ สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ ซึ่งอาจจะรวมถึงคณะถ่ายทำภาพยนตร์ เนื่องจากน่าจะเข้าได้กับกลุ่มเป้าหมายที่ขอผ่อนผันมาตรการกักกันโรค (State Quarantine) ซึ่งจะต้องมีมาตรการคุมไว้สังเกต ตามฉบับร่างของ ศบค.ชุดเล็กที่จะนำเสนอให้ในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายนนี้

“น่าจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน ที่เดินทางเข้ามาระยะสั้น เพราะเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์อย่างเก่งก็มาประมาณ 1 สัปดาห์ ยกเว้นแต่การเข้ามาเป็นเดือน ก็ว่าเป็นอีกอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตามแต่จะต้องดูว่ากลุ่มนี้เข้ามาแล้วจะสามารถรับได้กับเรื่องมาตรการของเรา ซึ่งเรียกว่า มาตรการคุมไว้สังเกต ในการเข้ามาต้องมีการเช็ก เข้ามาแล้วต้องเช็กอีกรอบหนึ่ง ระหว่างอยู่กับเราต้องมีทีมการแพทย์ประกบอยู่ตลอดเวลา และมีแผนการเดินทางให้เราตรวจสอบได้ตลอด และก่อนจะออกไปก็มีระบบการเช็กอีกรอบหนึ่ง หากเขามีเงินในการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ เชื่อว่าระบบของการตรวจสอบหากยอมรับได้เราก็จะเปิดเข้ามาได้ ซึ่งเป็นส่วนของกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้รับผิดชอบ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเป็นห่วงในการเดินทางของชาวต่างชาติ จะมีการเพิ่มระยะเวลาในสถานกักกันโรคฯ หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า รายงานระยะเวลาของการตรวจพบเชื้อของคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรคฯ พบว่า ระยะเวลาใหญ่พบการติดเชื้อน้อยกว่า 7 วัน ซึ่งตรวจพบเชื้อร้อยละ 85 แต่มีการกำหนดให้ตรวจหาเชื้อในวันที่ 3-5 ของการเข้าพัก โดยการพบเชื้อตั้งแต่ 11 วันของการเข้าพักตรวจพบเชื้อเพียงร้อยละ 8 ดังนั้นจึงเป็นตัวเลขที่เหมาะสมในการกักกันโรคฯ หากกักกันนานเกินไป จะเป็นเสียงบประมาณของรัฐฯ และที่ผ่านมาผู้ที่ออกจากสถานกักกันโรคฯ ไปแล้วตัวเลขการติดเชื้อในประเทศไทยก็ยังเป็นศูนย์อยู่ จึงเชื่อว่า 14 วันยังเพียงพอ

“ชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวทั่วไป เรายังไม่ให้เข้ามาแน่นอน จะเข้ามาแบบเดิม 40 ล้านคนต่อปี เราจะไม่เห็นภาพนั้นแน่นอนในช่วงเวลาอันใกล้นี้ แต่เราจะให้เข้ามาอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น นักธุรกิจ ช่างฝีมือแรงงาน ผู้เข้ามาดูแลเครื่องจักร แรงงานมีฝีมือ คนต่างด้าวที่มีครอบครัวคนไทย และในส่วนของการจับคู่ประเทศแทรเวิลบับเบิล(Travel bubble) ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ที่จะให้เดินทางเข้ามาในตอนแรก ตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจน เราจะต้องศึกษาอีกระยะหนึ่ง โดยเมื่อวานนี้มีการประชุม ศบค.ชุดเล็ก ร่วมกับเลขา สมช. ได้พูดว่า กว่าจะเห็นผลไม่ใช่เดือนหน้าแน่นอน เร็วที่สุดเดือนสิงหาคม และยังมีข้อกังวลส่วนการเดินทางมาในกรณี medical and wellness tourism เป็นผู้เดินทางเข้ามาเพื่อการแพทย์ เช่น ศัลยกรรมหรือปัญหามีลูกยาก แต่ไม่ใช่การรักษาโควิด-19 อย่างแน่นอน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค.กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธาน ศบค. เพื่อการอนุมัติมาตรการต่างๆ ซึ่งจะมีการหารือในเรื่อง 1.ผ่อนปรนในระยะที่ 5 ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด จะมีการตัดสินว่าจะมีการอนุมัติหรือไม่ 2.ผู้ที่จะเดินทางมาจากต่างประเทศ 3.การขยายใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน 4.มาตรการรองรับการศึกษากรณีเด็กชานแดน ซึ่งมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ และ 5.การขอยกเว้นปฏิบัติตามข้อกำหนด เรื่องการเว้นที่นั่ง/ยืน เว้นระยะห่าง ภายในขบวนรถขนส่ง เช่น รถไฟฟ้า เป็นต้น