รีเซต

กอนช.ประกาศฉ.14 เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ เตือน 4 จังหวัดรับมือ

กอนช.ประกาศฉ.14 เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ เตือน 4 จังหวัดรับมือ
TNN ช่อง16
25 กันยายน 2564 ( 16:31 )
180
กอนช.ประกาศฉ.14 เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ เตือน 4 จังหวัดรับมือ

วันนี้ (25 ก.ย.64) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ออกประกาศเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 14 เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบาย เตือนพื้นที่ลุ่มต่ำ 4 จังหวัด ท้ายน้ำ พร้อมรับมือ โดยมีรายละเอียด ระบุว่า จากการคาดหมายของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 24 - 25 กันยายน 2564 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังจาก พายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 26 – 30 กันยายน 2564 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบน ทั้งนี้ อิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง มีฝนเพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ในอัตราเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินปริมาณฝนที่ตกสะสมในพื้นที่ตอนบนลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในช่วงดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะส่งผลให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุด บริเวณสถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,400 – 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

และคาดการณ์ว่าแม่น้ำสะแกกรัง จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ Ct.19 จังหวัดอุทัยธานี อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ กอนช. มอบหมายให้กรมชลประทานบริหารจัดการชะลอน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาร่วมกับการตัดยอดน้ำเข้าระบบคลองชลประทานทั้งสองฝั่งและพื้นที่ลุ่มต่ำ

ทำให้จะมีน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 0.30 - 1.00 เมตร ในช่วงวันที่ 27 – 30 กันยายน 2564 ดังนี้

1. จังหวัดชัยนาท ตำบลโพนางดำ อำเภอสรรพยา 

2. จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอพรหมบุรี อำเภอเมือง และวัดเสือข้าม ตำบลประศุก วัดสิงห์ ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี 

3. จังหวัดอ่างทอง คลองโผงเผง วัดไชโย ตำบลไชโย อำเภอไชโย และอำเภอป่าโมก 

4. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) 

ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้

1. ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่จุดเสี่ยงและพื้นที่ที่ยังคงสถานการณ์น้ำท่วมขังอยู่ แจ้งเตือนจังหวัดในพื้นที่ท้ายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลและ แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งผู้ประกอบกิจการ ในบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล

2. ปรับแผนบริหารจัดการเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำและเร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ เพื่อรองรับน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนลดผลกระทบความรุนแรงของอุทกภัยและให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

3. เตรียมแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที


ข้อมูลจาก กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ

ภาพจาก ผู้สื่อข่าว จ.ชัยนาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง