รีเซต

ตรวจสอบเส้นทางน้ำท่วมล่าสุด เช็กที่นี่ทางหลวงสัญจรไม่ได้ 28 แห่ง

ตรวจสอบเส้นทางน้ำท่วมล่าสุด เช็กที่นี่ทางหลวงสัญจรไม่ได้ 28 แห่ง
TNN ช่อง16
8 ตุลาคม 2565 ( 16:45 )
125
ตรวจสอบเส้นทางน้ำท่วมล่าสุด เช็กที่นี่ทางหลวงสัญจรไม่ได้ 28 แห่ง

ฝนตกหนักหลายพื้นที่ พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ในพื้นที่ 22 จังหวัด จราจรผ่านไม่ได้ 28 แห่ง ในพื้นที่ 11 จังหวัด 

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า กรมทางหลวง ได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมเร่งระบายน้ำบำรุงรักษาเส้นทางที่ได้รับผลกระทบพร้อมติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง ในขณะที่บางพื้นที่ก็มีการล้างทำความสะอาดถนน ทางลอดใต้สะพานหลังจากน้ำลดลงบ้างแล้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง 

ตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใย จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยประชาชนอย่างทันท่วงที 

กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดยสถานการณ์ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2565 เวลา 15.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ในพื้นที่ 22 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย, จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์, จ.บุรีรัมย์, จ.นครราชสีมา, จ.หนองบัวลำภู, จ.ขอนแก่น, จ.มหาสารคาม, จ.ยโสธร,จ.เพชรบูรณ์, จ.ชัยภูมิ, จ.อุบลราชธานี, จ.ร้อยเอ็ด, จ.ลพบุรี, จ.สุพรรณบุรี, จ.อ่างทอง, จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.สิงห์บุรี, จ.นครสวรรค์, จ.ปราจีนบุรี, จ.เพชรบุรี และ จ.ตรัง จำนวน 50 สายทาง จำนวน 76 แห่ง ทางหลวงที่การจราจรผ่านได้ 48 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 28 แห่ง ในพื้นที่ 11 จังหวัด โดยทุกจุดมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร 

รายละเอียดดังนี้

1.จังหวัดเชียงราย จำนวน 1 แห่ง 

บนทางหลวงหมายเลข 1338 ตอนขาแหย่ง - ป่าเหมี่ยง ในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ช่วง กม.ที่ 4+500 – 4+550 ระดับน้ำสูง 40 ซม. ฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้สะพานขาด ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.1130 และเส้นทางบ้านห้วยส้าน – บ้านป่าเหมี่ยง คาดว่าผ่านได้วันที่ 10 ต.ค. 65

2.จังหวัดขอนแก่น จำนวน 2 แห่ง

- บนทางหลวงหมายเลข 2065 ตอน พล – ลำชี ในพื้นที่ อ.พล ช่วง กม.ที่ 33+150 – 34+000 ระดับน้ำ 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

- บนทางหลวงหมายเลข 2183 ตอน น้ำพอง – โคกท่า ในพื้นที่ อ.น้ำพอง ช่วง กม.ที่ 14+500 – 15+100 ระดับน้ำ 40 - 50 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

3. จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 1 แห่ง 

บนทางหลวงหมายเลข 2179 ตอน จตุรัส – บำเหน็จณรงค์ ในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ ช่วง กม.ที่ 13+500 – 13+600 น้ำกัดเซาะคันทางชำรุด ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

4. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่

- ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ศรีสะเกษ – ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 311+900 – 313+384 ระดับน้ำ 60 – 80 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

- ทางหลวงหมายเลข 2083 ตอน หัวช้าง – สะเดา ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 16+000 – 19+500 ระดับน้ำ 40 - 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

- ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 27+500 – 29+000 ระดับน้ำ 40 - 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

- ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 30+000 – 31+500 ระดับน้ำ 50 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

- ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน เมืองน้อย – กันทรารมย์ ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่103+500 – 107+125 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 50 - 80 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

- ทางหลวงหมายเลข 2373 ตอน โนนสำนัก – ดอนไม้งาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 12+000 – 14+625 ระดับน้ำ 30 - 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

- ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 70 - 80 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

5. จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 1 แห่ง 

บนทางหลวงหมายเลข 2378 ตอน จอมพระ – สะพานบุรีรินทร์ ในพื้นที่ อ.จอมพระ ช่วง กม.ที่ 18+900 – กม.20+040 ระดับน้ำ 30 - 40 ซม.

6. จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 1 แห่ง 

บนทางหลวงหมายเลข 2378 ตอน สะพานบุรีรินทร์ – ไทรงาม ในพื้นที่ อ.สตึก ช่วง กม.ที่ 20+00 – 20+200 ระดับน้ำ 45 ซม.

7.จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 แห่ง 

บนทางหลวงหมายเลข 2285 ตอน ประทาย - ชุมพวง ในพื้นที่ อ.ชุมพวง ช่วง กม.ที่ 18+700 - กม.20+300 ระดับน้ำ 20 – 35 ซม.

8.จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง 

บนทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู - เขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 39+500 – 42+000 ระดับน้ำ 40 ซม.

9. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 7 แห่ง

- ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 110 ซม. แนะนำเส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี

-ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เขื่องใน - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 259+700 – 261+800 ระดับน้ำ 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

-ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เขื่องใน - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 274+840 น้ำกัดเซาะข้างท่อเหลี่ยม ทำให้ถนนทรุด ปิดการจราจรขาออก ใช้ทางเบี่ยง

- ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 313+400 – 313+700 ระดับน้ำ 65 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

- ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600 – 319+800 ระดับน้ำ 120 ซม.

- ทางหลวงหมายเลข 231 ตอน ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 3+600 – 9+300 ระดับน้ำ 53 - 115 ซม. ใช้ทางเลี่ยงถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก ทล.231

- ทางหลวงหมายเลข 2404 ตอน เขื่องใน – นาคำใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 14+120 – 14+550 ระดับน้ำ 55 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2408 และ 2382

10. จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง 

บนทางหลวงหมายเลข 291 ตอน ทางเลี่ยงเมืองมหาสารคาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 2+751 – 7+635 ระดับน้ำ 20 - 25 ซม.

11.จังหวัดยโสธร จำนวน 1 แห่ง 

บนทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน กู่พระโกนา - บ้านด่าน ในพื้นที่ อ.ฌพนทราย ช่วง กม.ที่ 25+000 - กม.26+315 ระดับน้ำ 20 วม. ไม่มีทางเลี่ยง เป็นช่วง กม.ต่อเนื่องกับ จ.ศรีสะเกษ ที่น้ำท่วมสุง

12.จังหวัดลพบุรี จำนวน 1 แห่ง 

บนทางหลวงหมายเลข 205 ตอน ม่วงค่อม - คลองห้วยไผ่ ในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล ช่วง กม.ที่ 58+900 – 59+500 ระดับน้ำ 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

10. จังหวัดอ่างทอง จำนวน 2 แห่ง ได้แก่

- ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 9+900 – 11+000 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. ท่วมผิวจราจร 10 ซม.

- ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 10+400 – 11+000 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. ท่วมผิวจราจร 5 - 10 ซม.

13.จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 1 แห่ง 

บนทางหลวงหมายเลข 311 ตอนแยกวัดสนามไชย - วัดกระดังงา ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 33+500 – 36+000 ระดับน้ำ 105 ซม. (ทางโค้งด้านใน) ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงชนบท สห.3030

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม 

นอกจากนี้ กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด 

หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1




ข้อมูลจาก กรมทางหลวง

ภาพจาก TNN ONLINE (แฟ้มภาพ)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง