Meta ดันครีเอเตอร์ตัวจริง เปิดฟีเจอร์กันคอนเทนต์ลอกเลียนแบบ

เมตา (Meta) เปิดตัวเครื่องมือบนมือถือชื่อ เฟซบุ๊ก คอนเทนต์ โพรเทคชัน (Facebook Content Protection) เพื่อช่วยครีเอเตอร์ป้องกันคลิปรีลส์ (Reels) ต้นฉบับที่โพสต์บนเฟซบุ๊ก (Facebook) ไม่ให้ถูกผู้อื่นนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยระบบจะทำงานคล้ายตัวตรวจจับลิขสิทธิ์และแจ้งเตือนทันทีเมื่อพบว่ามีบัญชีอื่นนำคลิปเดียวกันไปใช้ซ้ำ

แจ้งเตือนทันที พร้อมเลือกบล็อก ติดเครดิต หรือปล่อยให้ใช้ได้

เมื่อระบบพบการนำคลิปไปใช้ซ้ำ ครีเอเตอร์สามารถเลือกจัดการได้หลายแบบ ได้แก่ บล็อกการมองเห็น (Block Visibility) ทั้งบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม (Instagram) ติดตามสถิติการใช้งาน (Track Performance) และเพิ่มลิงก์เครดิตกลับมายังคลิปต้นฉบับ และ ปล่อยเคลม (Release Claim) เพื่ออนุญาตให้คลิปนั้นยังคงอยู่บนแพลตฟอร์ม

เมตาระบุว่า ระบบใหม่นี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุน “ครีเอเตอร์ตัวจริง” ไม่ให้ถูกกลบโดยคอนเทนต์ลอกเลียนแบบ โดยก่อนหน้านี้บริษัทเคยลบโปรไฟล์ปลอมกว่า 10 ล้านบัญชี และจัดการพฤติกรรมสแปมอีก กว่า 500,000 บัญชี

แม้ระบบจะตรวจจับคอนเทนต์ที่แชร์จากอินสตาแกรมได้ แต่เงื่อนไขคือ ครีเอเตอร์ต้องโพสต์รีลส์ขึ้นเฟซบุ๊กก่อน หรือใช้ฟีเจอร์แชร์จากอินสตาแกรมไปเฟซบุ๊ก (Share to Facebook) เพื่อให้ระบบสามารถติดตามได้อย่างถูกต้อง

เครื่องมือนี้จะเปิดให้กับครีเอเตอร์ที่อยู่ใน โปรแกรมสร้างรายได้เฟซบุ๊ก (Facebook Content Monetization Program) และผู้ใช้งาน ไรทส์ แมนเนเจอร์ (Rights Manager) ที่ผ่านเกณฑ์ความน่าเชื่อถือและความเป็นต้นฉบับ

ระบบใช้เทคโนโลยีเดียวกับ ไรท์ส์ แมนเนเจอร์ (Rights Manager) ที่ใช้คุ้มครองลิขสิทธิ์ โดยจะแสดงเปอร์เซ็นต์ “ความคล้ายกันของคลิป (Match Percentage)” พร้อมข้อมูลสำคัญ เช่น จำนวนวิว จำนวนผู้ติดตาม และสถานะการสร้างรายได้ของคลิปนั้น โดยครีเอเตอร์ยังสามารถตั้งค่าได้เอง เช่น

• เพิ่มบัญชีที่อนุญาตให้นำคลิปไปใช้ใน “ลิสต์ที่อนุญาต (Allow List)”

• เคลมเฉพาะคลิปแต่ละครั้ง

• หรือติดลิงก์เครดิตเพื่อแสดงป้าย “ต้นฉบับ (Original)” เชื่อมกลับสู่โปรไฟล์หรือเพจครีเอเตอร์

ซึ่งเมตากล่าวว่ากำลังทดสอบฟีเจอร์ลิงก์กลับไปยัง “รีลส์ต้นฉบับ” โดยตรงด้วย

บล็อกได้ แต่ไม่ลงโทษบัญชีที่ขโมย เพื่อกันการใช้ระบบกลั่นแกล้ง

หากครีเอเตอร์เลือก “บล็อก” คลิปนั้น การกระจายบนแพลตฟอร์มจะถูกจำกัด แต่บัญชีผู้โพสต์จะ ไม่ถูกลงโทษ เพื่อป้องกันการนำระบบไปใช้โจมตีผู้อื่นโดยไม่สุจริต

ทั้งนี้ หากเจ้าของผลงานใช้ระบบผิดวัตถุประสงค์ เช่น แจ้งเท็จ ระบบอาจจำกัดสิทธิ์หรือปิดการใช้งานเครื่องมือนี้

ครีเอเตอร์ยังสามารถโต้แย้งหากมีผู้อื่นเคลมคลิปของตน ผ่านระบบรายงานลิขสิทธิ์ (Copyright Takedown) หรือแจ้งว่าระบบตรวจจับไม่พบคลิปที่สงสัย

ขณะนี้ Facebook Content Protection เปิดใช้งานเฉพาะบนมือถือ โดยปัจจุบันตามรายงานจากเว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีต่างชาติ TechCrunch กว่าว่าเมตากำลังทดสอบการนำขึ้นสู่แดชบอร์ดโปรเฟสชันแนล (Professional Dashboard) เวอร์ชันเดสก์ท็อปในลำดับถัดไป