รีเซต

บุกจับลูกชายร้านทองดังเมืองกาญจน์ ฟอกเงิน-พัวพันยาเสพติด ยึดทรัพย์กว่า 30 ล้าน

บุกจับลูกชายร้านทองดังเมืองกาญจน์ ฟอกเงิน-พัวพันยาเสพติด ยึดทรัพย์กว่า 30 ล้าน
ข่าวสด
27 พฤษภาคม 2564 ( 15:59 )
220
บุกจับลูกชายร้านทองดังเมืองกาญจน์ ฟอกเงิน-พัวพันยาเสพติด ยึดทรัพย์กว่า 30 ล้าน

 

"ชุดสยบไพรี" บุกจับลูกชายเจ้าของร้านทองดังเมืองกาญจน์ ฟอกเงิน-พัวพันยาเสพติด ยึดทรัพย์กว่า 30 ล้าน เผยจับไปแล้วรวม 5 คน อีก 6 คนยังหนี

 

 

 

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 27 พ.ค.64 พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส., พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ รอง ผบ.พล.ร.9, พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ ผบ.ร.19/ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์, พ.ต.อ.ภาคิน แสนพุฒิ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ปปส.ภาค 7 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สยบไพรี บช.ปส. นำหมายจับศาลอาญาที่ 286/2564 ลงวันที่ 27 พ.ค.64 เข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมตัว นายธเนศพลร์ ลูกชายเจ้าของห้างทองชื่อดังของเมืองกาญจน์ ตามแผนยุทธการสยบไพรี 64/8 “สยบตะนาวศรี”

 

 

ในห้อหากระทำความผิด “ฐาน สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด รับเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิดเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ ฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน”

 

 

โดยก่อนเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ไปรวมตัวกันที่ บก.ภ.จว.กาญจนบุรี เพื่อเตรียมความพร้อม จากนั้นได้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสยบไพรี ไปถึงถนนฝั่งตรงข้าม พบว่าห้างทองดังกล่าวดังยังเปิดให้บริการแก่ลูกค้าตามปกติ โดยมีเจ้าของร้านทองและครอบครัวอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่จึงลงจากรถยนต์ตู้แล้ววิ่งข้ามถนนไปคุมตัวผู้ที่อยู่ในร้านเอาไว้ จากนั้นได้อ่านหมายจับและหมายค้นให้ผู้ที่อยู่ในร้านได้เข้าใจ ซึ่ง 1 ในนั้นมี นายธเนศพลร์ ลูกชายเจ้าของห้างทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่ด้วย

 

 

ระหว่างนั้นนอกจากมีเจ้าหน้าที่แล้วยังมีสื่อมวลชนทุกสำนักคอยติดตามรายงานข่าวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับญาติของผู้ต้องหาเป็นอย่างมาก และยังได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ห้างทองแห่งนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องคดี หากมีการนำเสนอภาพป้ายชื่อร้านหรือภาพภายในร้านออกไปจะไม่ยอมโดยเด็ดขาดเพราะจะเป็นการทำให้ห้างทองเสียชื่อเสียง แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าของร้านยินดีที่จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นตามหมายค้นได้ แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปด้วย สำหรับบรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียดพอสมควร

 

 

ต่อมาเวลา 11.00 น.พล.ต.ท.มนตรี ได้พูดคุยกับเจ้าของห้างทอง พ่อของผู้ต้องหา รวมทั้งลูกสะใภ้ ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ต้องหา การพูดคุยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ โดย พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การลักลอบลำเลียงยาเสพติด เข้าชายแดนทางทิศตะวันตกด้านอำเภอสังขละบุรี เพื่อนำจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และใกล้เคียง ซึ่งในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2562-2564 ได้ตรวจยึดยาเสพติดประเภทยาบ้าได้เป็นจำนวนมาก ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 3,217 กิโลกรัม เคตามีนน้ำหนักประมาณ 591 กิโลกรัม และเฮโรอีนน้ำหนักประมาณ 77 กิโลกรัม

 

 

จากการจับกุมและซักถามผู้ต้องหาในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทราบว่า มีกลุ่มผู้กระทำผิดอยู่ 4 กลุ่ม คือ เอวัน ผู้นำกลุ่มกองกำลังแนวชายแดนซึ่งเป็นกลุ่มจัดหายาเสพติด นายสุทัศน์ หรือนุ้ย เดชคำ นักค้ายาเสพติดรายสำคัญซึ่งหลบหนีไปอยู่เขตพญาตองซู ตรงข้ามกับบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เป็นกลุ่มสั่งการและจัดหาผู้ลำเลียง ยังมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดและนำยาเสพติดเข้ามาในเขต จ.กาญจนบุรี

 

 

เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินค่ายาเสพติดที่ผู้ต้องหาโอนเข้าบัญชีรับเงินค่ายาพบว่าได้โอนเงินไปยังกลุ่มนักทำบัญชี จากนั้นเงินถูกโอนต่อไปยังกลุ่มฟอกเงินรวมถึงร้านค้าทองคำ ซึ่งร้านดังกล่าวมีความเชื่อมโยงทางการเงินกับเครือข่ายมลยี จาก จ.กาญจนบุรี ไปยังกลุ่ม อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีเงินหมุนเวียน มากกว่า 2,000 ล้านบาท

 

 

และจากผลการปฏิบัติในครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้จำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1.นายวิฑูร เพิ่มพูนภิณโย 2.น.ส.กานต์รวี หอระบรรณ์ 3.นายธวัชชัย หรือมด เดชสาร 4.นายธเนศพลร์ มนัสปิยะเลิศ ลูกชายเจ้าของห้างทองที่เข้าจับกุมในวันนี้ และ 5 น.ส.นิรดา ไกรวิจิตร ส่วนผู้ต้องหาอีก จำนวน 6 คน ได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ

 

 

สำหรับทรัพย์สินที่ยึดอายัดเอาไว้ตรวจสอบ ประกอบด้วย บ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 1 หลัง 3 คูหา ราคาประมาณ 7,000,000 บาท ทองรูปประพรรณ ราคาประมาณ 13,000,000 บาท รถเก๋ง 4 คัน มูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน มูลค่าประมาณ 70,000 บาท และเงินสด จำนวน 5,000,000 บาท รวม 30,070,000 บาท

 

 

ด้าน พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบเบื้องต้นว่าเจ้าของร้านทองมีคดีฟอกเงินของ ป.ป.ง.หลายคดี แต่เมื่อสักครู่ก็ได้เรียนกับเจ้าของร้านไปแล้วว่าในการค้ายาเสพติดหรือเส้นทางการเงินที่เข้ามาสู่ร้านนั้นมีหลายเคสหลายคดี ซึ่งเคสนี้เป็นเคสที่มีความชัดเจน โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ตำรวจ ปส. ตำรวจภูธรภาค 7 รวมทั้งทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันสืบทราบว่า เส้นทางเงินจากการค้ายาเสพติดได้เข้ามาสู่ร้านทองแห่งนี้เป็นจำนวนมาก มีวอร์รูมอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท จึงมีการสืบสวนจนเป็นที่ชัดเจนว่ามีผู้เข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนหลายคน ดังนั้น บช.ปส.4 จึงได้มีการขออนุมัติออกหมายจับ และสามารถจับกุมตัวได้เป็นที่เรียบร้อย

 

 

สำหรับลักษณะที่เกิดขึ้นคือยาเสพติดที่ทางตำรวจภูธรภาค 7 จับได้ประมาณ 1 ตันครึ่งเมื่อช่วงเดือน ส.ค.ปี 63 ซึ่งเราสืบทราบว่ายาเสพติดล็อตดังกล่าวนั้นจะถูกลำเลียงส่งไปทางภาคใต้ จากนั้นเงินค่ายาที่จะกลับไปยังแหล่งผลิตยาเสพติดที่ประเทศเพื่อนบ้านจะมีลักษณะจ่ายเป็นทองคำแท่ง และมีลักษณะเป็นการกดเงินที่อยู่ตามแนวชายแดนแล้วนำข้าวไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งการจ่ายค่ายาเสพติดนั้นมีอยู่หลายรูปแบบ

 

 

สำหรับวันนี้เราจะมีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง.เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี จะร่วมกันตรวจสอบสอบทรัพย์สินของร้านทองให้ชัดเจนว่า ทรัพย์สินส่วนไหนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินเราก็จะให้เขาเก็บรักษาไว้ ส่วนทรัพย์สินอะไรที่เกี่ยวพันกับยาเสพติดหรือเกี่ยวกับการที่โอนเงินมาเราก็จะทำการดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ ต่อไป

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะเดียวกันเมื่อ เวลา 17.00 น. ของวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าจับกุม นายวิฑูรย์ เพิ่มพูนภิญโญ อายุ 64 ปี ที่บ้านเช่าเลขที่ 13 หมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และนำตัวไปควบคุมและทำการสอบสวนที่ บก.ร้อย ตชด.134 อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

 

 

โดย นายวิฑูรย์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 285/64 ลงวันที่ 11 พ.ค.64 ในข้อหา สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ(ฟอกเงิน) และ หมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี เลขที่ 86/64 ลงวันที่ 24 มี.ค.64 สนับสนุนช่วยเหลือหรือร่วมกระทำความผิดร่วมกันมียาเสพติด (ค้ายาเสพติด) ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกันกับ นายธเนศพลร์

 

 

ซึ่งเวลาประมาณ 07.30 น. วันนี้ (27 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ บช.ปส.ได้นำตัว นายวิฑูรย์ พร้อมหลักฐานขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เดินทางจากสนามจอด ฮ.กองร้อย ตชด.ที่ 134 สังขละบุรี มาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดย พล.ต.ท.มนตรี กล่าว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวทำหน้าที่ไปกดเงิน เพื่อนำไปส่งให้กับแหล่งผลิตยาเสพติดรวมทั้งโดยเงินมาให้กับร้านทองดังกล่าวด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง