กรมศุลกากร ยึดยาเสพติดมูลค่า 98 ล้านบาท เตรียมส่งออกทางเรือ-เครื่องบิน
กรมศุลกากร ตรวจยึดยาเสพติด ทั้งไอซ์ เฮโรอีน ซึ่งลักลอบขนผ่านทางเรือ และเครื่องบิน เตรียมจะถูกส่งออกไปต่างประเทศ ซุกซ่อนไปกับเสื้อผ้า และพัสดุเครื่องครัว โดยมีการสำแดงสินค้าเป็นสินค้าชนิดอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้น โดยมีมูลค่าความเสียหายเกือบกว่า 98 ล้านบาท และหากรวมตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว (2566)- 9 สิงหาคม 2567 กรมศุลกากรมีสถิติการจับกุมยาเสพติด ทั้งสิ้น 123 คดี มูลค่ารวม 970
ไอซ์จำนวน 440 กรัม และเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่ง คือ ของกลางที่กรมศุลกากร ตรวจยึดมาจากการสกัดกั้นผู้ค้ายาเสพติด ที่ลักลอบเตรียมจะส่งสินค้าไปให้กับเครื่อข่ายในต่างประเทศ โดยใช้ช่องทางเรือขนสินค้า และเครื่องบิน ซึ่ง กรมศุลกากรได้ประสานด้านการข่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจปราบปรามยาเสพติด// หน่วยงานภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าเรือ//หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน สืบสวนหาความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่จะส่งยาเสพติดไปต่างประเทศ ซึ่งการตรวจยึดยาเสพติดครั้งนี้ พบว่าเฮโรอีนบางส่วนถูกซุกซ่อนมากับมอเตอร์เครื่องบดเนื้อ โดยผู้ลักลอบแสดงสินค้าเป็นชนิดเครื่องบดเนื้อและเครื่องทำลูกชิ้น เตรียมส่งไปยังไต้หวัน ขณะที่บางส่วน ซุกซ่อนอยู่ในกล่องที่บรรจุเสื้อชาวเขากว่า 600 ชิ้น เตรียมส่งออกไปออสเตรเลีย ส่วนไอซ์ กรมศุลกากรไปตรวจยึดได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยของกลางถูกซุกซ่อนอยู่ในพัสดุ และซุกซ่อนอยู่ในอุปกรณ์เครื่องครัวอีกหนึ่งชั้น ซึ่งไอซ์ชุดนี้หากไม่ถูกสกัดไว้ก่อน ก็จะถูกส่งไปปลายทางประเทศออสเตรเลีย รวมแล้วของกลางทั้งหมดมีมูลค่าความเสียหายกว่า 98 ล้านบาท
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน
กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปราบปรามยาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรม กรมศุลกากร จึงเร่งเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดทั้งการนำเข้า การส่งออก การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่าย โดยเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดในทุกช่องทาง ทั้งนี้การลักลอบนำยาเสพติดออกนอกประเทศ เป็นความผิดฐานพยายามส่งยาเสพติดให้โทษ ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และนอกจากยาเสพติดของกลางล่าสุดที่ยึดได้เกือบ 100ล้านบาท ตั้ง เดือนตุลาคม 2566 – 9 สิงหาคม 2567 กรมศุลกากรมีสถิติการจับกุมยาเสพติด ทั้งสิ้น 123 คดี มูลค่ารวม 970 ล้านบาท