นักวิเคราะห์ชี้ อย่าเพิ่งเชื่อคำ "ตาลีบัน" เพราะวิถีตาลีบันลบนองเลือดไม่ได้
Editor’s Pick: เมิ่อรัฐบาลอัฟกานิสถานพ่ายแพ้อย่างหมดรูป ในเวลาเพียงไม่นาน หลังจากที่สหรัฐฯ และพันธมิตรถอนทหารออกไป ตอนนี้ กลุ่มตาลีบัน ยึดครองประเทศเอาไว้ได้แล้ว บอกว่า จะทำให้ประเทศสงบสุข
เลือกความสงบ จบที่ตาลีบัน
คลิปวิดีโอล่าสุดที่ กลุ่มตาลีบันได้เผยแพร่ออกมาในวันจันทร์ (16 สิงหาคม) โดยมูลเลาะห์ บาราดาร์ อัคฮุนด์ รองหัวหน้ากลุ่มตาลีบัน นั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มตาลีบัน ประกาศชัยชนะเหนือกองทัพรัฐบาลอัฟกานิสถาน และระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่จะมอบชีวิตและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับชาวอัฟกัน
"เส้นทางที่เรามาถึงจุดนี้ เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง และเรามาถึงจุดที่ไม่เคยจะคิดว่าจะมาถึง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากอัลเลาะห์ ที่ทรงช่วยเหลือพวกเรา เราได้รับชัย แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อนในโลก..ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะมารับใช้ชาติของเรา”
“เราจะมอบความสงบให้กับทั้งชาติ และเราจะไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของพวกเขา"
การประกาศชัยของกลุ่มตาลีบัน มีขึ้นหลังจากที่กองกำลังสามารถเข้าควบคุมทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาบูลได้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาเพียงสัปดาห์เศษ ๆ ในการควบคุมทั่วทั้งประเทศ และกวาดล้างกองทัพของรัฐบาลอัฟกันออกไป ทั้งที่กองทัพรัฐบาลได้รับการฝึกฝน และถูกติดอาวุธที่ทันสมัยจากสหรัฐฯ มานานหลายปีก็ตาม
หัวหน้ากลุ่มตาลีบัน ที่ไม่เปิดเผยตัวตน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters ว่า นักรบตาลีบันกำลังจัดกลุ่มใหม่จากจังหวัดต่าง ๆ และจะรอจะกว่ากองกำลังต่างชาติออกจากประเทศ เพื่อสร้างโครงสร้างรัฐบาลใหม่ขึ้นมา
หัวหน้ากลุ่มตาลีบันบอกว่า เหล่านักรบได้รับการบอกกล่าวแล้วว่า "ให้ชาวอัฟกันสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และอย่าสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน"
"วิถีชีวิตปกติจะต้องดำเนินต่อไป ในทางที่ดีขึ้น"
ขณะที่สถานการณ์ในอัฟกานิสถานเวลานี้ กลุ่มตาลีบัน ระบุว่า ไม่มีรายงานการปะทะกันในทั่วประเทศ 1 วันหลังจากที่กลุ่มได้ยึดกรุงคาบูลเอาไว้ได้ และสถานการณ์สงบสุขดี
นักวิเคราะห์ชี้ อย่าเพิ่งเชื่อคำ "ตาลีบัน"
แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะเชื่อว่า ตาลีบัน จะทำให้เกิดความสงบสุขในประเทศได้จริง
ไมเคิล คูเกลแมน รองผู้อำนวยการสถาบันคลังสมองวิลสัน ในวอชิงตัน บอกว่า "ตาลีบัน ปี 2021" นับว่ามีการประชาสัมพันธ์ตัวเอง (PR) ที่แตกต่างออกไป พวกเขามีโฆษกที่พูดภาษาอังกฤษ เพื่อไว้สื่อสารกับสื่อต่างชาติ นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า พวกเขาต้องการการยอมรับ
แต่ประชาคมโลกก็ยังจำเป็นต้องระมัดระวังให้มาก เพราะตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะเชื่อคำพูดเหล่านี้ได้ อีกทั้ง กลุ่มนี้คือกองกำลังติดอาวุธที่แสนโหดร้าย และก่อเหตุนองเลือดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนเมื่อในอดีต
คูเกลแมน ย้ำว่า สิ่งที่ต้องทำเวลานี้ คือ การรอดูว่าประเทศต่าง ๆ จะมีปฏิกิริยาอย่างไร เมื่อตาลีบันเริ่มปกครองอัฟกานิสถาน และ "นี่เองที่เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในพันธมิตรทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคนี้"
สงบเกินไป จนแทบเป็นเมืองร้าง
มีรายงานในวันนี้ว่า ถนนหนทางต่าง ๆ ในกรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศ เงียบจนแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง อันเนื่องจากประชาชนยังคงหวาดกลัวกับสถานการณ์ที่อาจจะไม่ปลอดภัย
แตกต่างจากสถานที่หนึ่ง ที่มีความวุ่นวายอย่างที่สุด นั่นคือ สนามบินนานาชาติในกรุงคาบูล ฮาร์มิด คาร์ไซ หลังจากที่ชาวอัฟกันจำนวนมากต่างหวังไปยังสนามบิน เพื่อขึ้นเครื่องบินพาณิชย์ออกจากประเทศ เพื่อหลีกหนีจากสถานการณ์ที่วุ่นวาย
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์รายงานว่า มีเสียงปืนดังขึ้น สร้างความหวาดกลัวให้ประชาชน ซึ่งจากข่าวระบุว่า เป็นเสียงปืนจากกองทัพสหรัฐฯ โดยทหารสหรัฐฯ ได้เข้าควบคุมสนามบินในเวลาต่อมา เพื่อทำการโยกย้ายเหล่านักการทูตที่ยังหลงเหลือ ให้เป็นกลุ่มที่เดินทางออกได้ก่อน สร้างความไม่พอใจให้ักับชาวอัฟกันจำนวนหนึ่ง ที่ต้องการเดินทางออกนอกประเทศเช่นกัน
ส่วนเที่ยวบินพาณิชย์ ต่างได้รับผลกระทบจากความวุ่นวาย หลายสายการบินต้องประกาศระงับการบินเหนือน่านฟ้าอัฟกัน
นอกจากนี้ ประชาคมโลกกว่า 65 ชาติ รวมถึง สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น แต่ไม่มีจีนและรัสเซีย ได้ออกแถลงการณ์ร่วม ที่จะต้องอนุญาติให้ชาวอัฟกันและชาวต่างชาติที่ต้องการออกจากประเทศ สามารถเดินทางออกได้โดยปลอดภัย
ด้านอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องในวันนี้ ให้กลุ่มตาลีบัน และกลุ่มอื่นใดก็ตาม จงปกป้องชีวิตของประชาชน และให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมทันทีที่พวกเขาต้องการ
ตาลีบันย้ำ ไม่ทำอันตรายสถานทูต
แต่ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงคาบูล ได้ส่งสัญญาณเมื่อวันอาทิตยืว่า ได้ทำการติดต่อกับกลุ่มตาลีบันแล้ว และจะยังคงอยู่ในอัฟกานิสถานต่อไป ในขณะที่กลุ่มตาลีบันครองประเทศได้แล้ว
"สถานทูตจีนได้ขอให้หลายฝ่ายในอัฟกานิสถานรับรองความปลอดภัยของชาติจน, สถาบันของจีน และผลประโยชน์ของจีน...และทางสถานทูตได้ติดตามสถานการณ์อย่างาใกล้ชิด พร้อมกับเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน"
เช่นเดียวกับ สถานทูตของรัสเซีย ก็ประเทศว่าไม่มีแผนจะอพยพประชาชนแต่อย่างไร
โฆษกตาลีบันย้ำว่า "สถานทูตทุกแห่ง, ศูนย์กลางการทูต, สถาบัน, และชาวต่างชาติ" ทุกที่ในกรุงคาบูล จะคงอยู่อย่างปลอดภัย
ด้านประธานธิบดีอัชราฟ กานี ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปเมื่อวันอาทิตย์ (15 สิงหาคม) ที่ผ่านมา คาดว่าขณะนี้อยู่ในประเทศอุซเบกิสถาน