รีเซต

กทม. ถกผู้ดูแลแคมป์คนงานรอบที่ 4 กระตุ้นเข้มมาตรการโควิด

กทม. ถกผู้ดูแลแคมป์คนงานรอบที่ 4 กระตุ้นเข้มมาตรการโควิด
มติชน
24 มิถุนายน 2564 ( 18:44 )
45
กทม. ถกผู้ดูแลแคมป์คนงานรอบที่ 4 กระตุ้นเข้มมาตรการโควิด

ข่าววันนี้ 24 มิ.ย. 64 พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมเน้นย้ำมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในแคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดย นพ.ชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกทม.พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผู้บริหารสำนักอนามัย สำนักการโยธา ประชุมทางไกลผ่านระบบ วิดีโอ คอนเฟอร์เร้นซ์ ร่วมกับผู้ประกอบการและผู้ดูแลแคมป์คนงานก่อสร้างกว่า 500 ราย

 

พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ปัจจุบันยังมีการแพร่กระจายของโรคอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในแคมป์คนงานก่อสร้าง กทม.และศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าว จึงได้เชิญผู้ประกอบการมาร่วมประชุมเพื่อเน้นย้ำมาตรการ Bubble Protocol, Bubble and Sealed และการ Quarantine ในแคมป์คนงานก่อสร้าง หลังจากที่เคยมีการประชุมมา 3 ครั้งก่อนหน้านี้ เพื่อเน้นย้ำมาตรการการควบคุมโรคที่ต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโควิดให้ได้โดยเร็ว โดยเชิญผู้แทนกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมให้ความรู้ ทำความเข้าใจ และตอบข้อสงสัยของผู้ประกอบการ เพื่อให้สามารถร่วมกันควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้น โดยที่การก่อสร้างและธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้

 

“ทั้งนี้ สิ่งสำคัญในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดนอกจากปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวข้างต้นแล้ว สิ่งสำคัญคือ ขอให้งดเว้นการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยไม่จำเป็น หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานก่อสร้าง แนบท้ายประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ลงวันที่ 22 พ.ค. 2564 อย่างเคร่งครัด โดยต้องแจ้งสำนักงานเขตทั้งต้นทางและปลายทาง” พล.ต.ท.โสภณ กล่าว

 

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สำหรับการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้ประสบผลสำเร็จนั้น หน่วยงานภาครัฐไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จแต่เพียงฝ่ายเดียว แม้ภาครัฐจะมีข้อบังคับ ข้อห้าม หรือแนวทางปฏิบัติที่ดีเพียงใดก็ตาม หากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน และภาคเอกชนแล้ว การควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 คงไม่อาจประสบผลสำเร็จได้ จึงขอให้ผู้ประกอบการ ภาคเอกชนและประชาชนอดทน และให้ความร่วมมือปฏิบัติตามแนวทางที่หน่วยงานภาครัฐแนะนำ และในที่สุดเราจะก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง