ผลกำไร บริษัทยักใหญ่สหรัฐฯ วูบติดต่อกัน 2 ไตรมาส
ผลกำไรของบริษัทอเมริกันขนาดใหญ่ 500 แห่ง ที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ในไตรมาสแรกปีนี้ มีแนวโน้มจะลดลงเฉลี่ยร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่ข้อมูลของ “บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์” ระบุว่า ร้อยละ 78 ของบริษัทมีผลประกอบการที่ดีเกินคาด แต่เป็นเพราะนักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์ลงก่อนฤดูกาลแถลงผลประกอบการรายไตรมาส เนื่องจากแนวโน้มที่ไม่ดีนัก
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่บนปากเหวของภาวะถดถอย แต่ผลกำไรของบริษัทสหรัฐฯ ได้ชะลอตัวลงแล้ว
โดยผลกำไรของบริษัทเอกชนสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 แล้ว ขณะเดียวกัน ก็มีแนวโน้มซบเซาในไตรมาสปัจจุบันเดือนเมษายน-มิถุนายน ซึ่งคาดการณ์ว่ากำไรน่าจะลดลงเฉลี่ยร้อยละ 7.3
นักวิเคราะห์ประเมินว่า ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับความต้องการของผู้บริโภคที่ชะลอตัว อาจยืดเยื้อไปถึงไตรมาส 3 ปีนี้ พลิกจากที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ว่ากำไรของบริษัทจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงเวลาดังกล่าว
ข้อมูลล่าสุดสะท้อนว่า ผลกำไรของบริษัทอาจชะลอตัวยาวนานกว่าการระบาดของโควิด และอาจเป็นการชะลอตัวที่ยืดเยื้อที่สุดในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่การลดลงของกำไรภาคเอกชนต่อเนื่อง 3 ไตรมาส เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2558-2559 ซึ่งเป็นเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มต้นวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นรอบที่แล้ว
ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE
ที่มาภาพ : TNN